พะนครศรีอยุธยา - เผาด่วน! ศพน้องพร สาวโรงงานเหยื่อถูกฆาตกรรมทิ้งคลองบางพระครู เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังพบติดเชื้อโควิด-19 รีบแจ้งเพื่อนพนักงานที่มาร่วมงานรดน้ำศพกว่า 100 คน หวั่นเป็นคลัสเตอร์งานศพ
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่วัดทางกลาง ต.ทางกลาง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลบางปะหัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุธไธสวรรค์ แต่งชุด PPE รัดกุม ห่อร่าง น.ส.วราพร อิ่มอาหาร อายุ 40 ปี สาวโรงงานที่ถูกฆาตกรรมขึ้นเมรุเผาศพด่วนทันที
หลังจากผลชันสูตรศพจากโรงพยาบาลบางปะหัน โดยทางแพทย์ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในตัวผู้ตาย จึงได้ติดต่อสามีและประสานญาติให้ทราบทันที โดยก่อนหน้านี้ ทางนายวิษณุ สามีไม่ทราบว่าภรรยาติดโรคโควิด-19 ทราบเพียงว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาประสานและบอกให้ฟัง ตนเองจึงได้ติดต่อไปทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี แต่ได้รับแจ้งว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้ตรวจเชื้อโควิด-19 ของผู้ตาย หลังจากนั้น โรงพยาบาลบางปะหัน ประสานแจ้งเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเผาศพว่าภรรยาติดเชื้อโควิด-19 ส่วนตนเองนั้นตั้งแต่เกิดเหตุได้ป้องกันตัวเองใส่แมกส์หลายชั้นและ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำ
สำหรับผู้ที่มาร่วมงานและรดน้ำศพ มีเพื่อนและพนักงานประมาณเกือบ 100 คน คงต้องบอกให้กักตัว และคอยดูอาการ และตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อ ป้องกันการเกิดคลัสเตอร์งานศพ
สำหรับ น.ส.วราพร ได้ขาดการติดต่อจากสามี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม เนื่องจากผิดเวลาในการกลับบ้าน ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. สามีพยายามโทร.แต่ไม่สามารถติดต่อได้จึงเกิดความเป็นห่วง จึงชวนน้องชายออกมาดูที่โรงงานแต่ไม่พบ จากนั้นจึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางปะหัน และประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ช่วยออกตามหา จนกกระทั้งเช้าวันที่ 27 ก.ค. จึงคนพบศพถูกกฆาตกรรมโยนทิ้งคลองบางพระครู ต.ตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
ด้าน พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เผยหลังจากมีการประชุมได้แบ่งกำลังทำงานทั้งหมด 4 ชุด สภ.บ้านบางปะหัน สภ.บ้านขล้อ กก.สส.ภว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวนภาค 1 กระจายกำลัง เก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางจากโรงงานที่ผู้ตายทำงานอยู่ จนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ส่วนการฆาตกรรมยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เช่น เรื่องหนี้สิน หรือเรื่องขัดแย้งส่วนตัว
เบื้องต้น ได้รับรายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนว่า จากสภาพศพของผู้เสียชีวิต นอกจากบาดแผลที่พบบริเวณใบหน้าที่ถูกตีด้วยของแข็งไม่คม บาดแผลกว้างประมาณ 7 ซม.จนกะโหลกยุบแล้ว ที่บริเวณหัวเข่าขวาพบรอยช้ำเพียงด้านเดียว สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะล้มจากด้านขวาอย่างแรงจนหัวเข่ากระแทก อาจจะถูกคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ประกบแล้วดึงทำให้รถเสียหลักล้มลง ประกอบกับรถจักรยานยนต์มีร่องรอยถลอกด้านขวา บนถนนมีรอยรถจักรยานยนต์ล้ม ลากเป็นทาง ซึ่งน่าจะมีรถยนต์อีกคนมาอุ้มเอาตัวผู้เสียชีวิตไปสังหารบริเวณที่เกิดเหตุ