ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่พระภิกษุสงฆ์และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการศพ ในวัดพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ ทั้งนี้สำนักอนามัยได้ข้อมูลการปฏิบัติในการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อย่างถูกต้อง
วันนี้ (30 ก.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการวัคซีนแก่พระภิกษุสงฆ์และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการศพ ในวัดพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ โดยมี พระเทพประสิทธิมนต์ (โกศล มหาวีโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ รพ.ราชพิพัฒน์ สำนักงานเขตบางกอกน้อย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางกอกน้อย ร่วมกับโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ ให้บริการวัคซีนป้องกันเชิงรุกแก่พระภิกษุสงฆ์ เจ้าหน้าที่ผู้จัดการศพ(สัปเหร่อ) มัคนายก ตลอดจนบุคลากรของวัดในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 8 เขต จำนวน 152 แห่ง และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ 6 เขต จำนวน 69 แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 221 แห่ง สำหรับในวันนี้มีพระภิกษุสงฆ์เข้ารับการฉีดวัคซีน 577 รูป และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้ารับการฉีดวัคซีน จำนวน 309 คน รวมผู้เข้ารับบริการ 886 คน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ที่ผ่านมาวัดศรีสุดารามวรวิหาร ได้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่เพื่อให้กรุงเทพมหานครได้ใช้ในการจัดตั้งเป็นรพ.สนามและศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความครบวงจร และมีประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก สำหรับในวันนี้กรุงเทพมหานครได้จัดบริการฉีดวัคซีนเพื่อให้บริการแก่พระสงฆ์ เณร แม่ครัว เจ้าหน้าที่วัด ซึ่งเข้าเกณฑ์การรับวัคซีน คือมีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงให้บริการพระสงฆ์จากทุกนิกาย และเจ้าหน้าที่วัดในพื้นที่ฝั่งธนบุรีทั้งหมด ในส่วนของพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดในพื้นที่อื่นอีก 35 เขต จะให้บริการในวันที่ 1 ส.ค. ณ จุดฉีดวัคซีนนอกรพ. หน่วยความร่วมมือกรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย SCG บางซื่อ โดยวัดที่ประสงค์เข้ารับวัคซีนสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมความพร้อมและมาตรการต่างๆ ให้ถูกต้องและเป็นไปตามสุขลักษณะต่อไป
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยได้ออกข้อปฏิบัติในการจัดการศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับผู้ปฏิบัติงานฌาปนสถาน เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติและผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคออกไปสู่ภายนอก โดยศพผู้เสียชีวิตที่จะรับมาประกอบพิธี ณ ฌาปนสถานจำเป็นต้องผ่านการบรรจุศพลงในถุงบรรจุศพอย่างถูกวิธีจากสถานพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้ว เมื่อศพผู้เสียชีวิตได้เคลื่อนย้ายมาถึงฌาปนสถานให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด อาทิ ผู้ปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสกับศพรวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่สัมผัสกับศพ เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายศพต้องสวมถุงมือยาง หน้ากากอนามัย และเสื้อคลุมกันเปื้อน แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่ต้องสวมชุด PPE เนื่องจากถุงศพภายนอกผ่านการบรรจุศพอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้ว ในการเผาศพ ควรใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา กล่าวคือ มีห้องเผาศพและห้องเผาควันใช้น้ำมันดีเซลหรือก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิง มีระบบควบคุมการทำงานของหัวเผาและอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในระหว่างการเผาศพ ให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเปิดประตูเตา หากจำเป็นต้องเปิดประตูเตาเพื่อเขี่ยศพหรือพลิกศพ ต้องปิดหรือลดความแรงของพัดลมในห้องเผาลงให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของสารคัดหลั่งจากศพ เมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเชื้อโรคถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว จากนั้นให้ดำเนินการเก็บกระดูกเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศล แล้วจัดการขี้เถ้าที่เหลืออย่างถูกสุขลักษณะต่อไป
สำหรับผู้จัดงาน ห้ามเคลื่อนย้ายศพออกจากหีบศพ และห้ามเปิดถุงบรรจุศพ เพื่อทำการแต่งหน้าหรืออาบน้ำศพโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค หากจะทำการรดน้ำศพให้ใช้วิธีการโยงสายสิญจน์หรือผ้าโยงจากหีบศพเท่านั้น การสวดพระอภิธรรมและการบำเพ็ญกุศลศพ สามารถดำเนินการได้เหมือนศพปกติทั่วไปแต่ให้ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการรวมตัวของผู้คน ได้แก่ ควรคัดกรองคนเข้าร่วมงาน การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและการจัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นต้น รวมทั้งควรจำกัดจำนวนวันในการประกอบพิธีกรรมเท่าที่จำเป็น