ตาก - แม่น้ำเมยยังทะลักล้นตลิ่งท่วมชายแดนสองฝั่งทั้งเมียวดี-แม่สอดจมบาดาลข้ามวันข้ามคืน บางจุดลึกร่วม 3 เมตร ทหาร ฉก.ร.4 อส. กู้ชีพกู้ภัยต้องระดมกำลังขับเรือฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากช่วยชาวบ้าน-ผู้ป่วยติดเตียงหนีน้ำกันระทึก
วันนี้ (28 ก.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืนหน้ากรณีแม่น้ำเมยไหลล้นตลิ่งกว่า 2 เมตร เข้าท่วมพื้นที่แนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก-เมียวดี ประเทศเมียนมา มาตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ระดับน้ำยังไม่มีทีท่าว่าจะลดระดับลง โดยช่วงบ่ายที่ผ่านมายังคงมีฝนตกเหนือพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ยิ่งทำให้สถานการณ์ไม่ดีนัก
ล่าสุดน้ำจากแม่น้ำเมยได้ไหลเข้าท่วมเต็มพื้นที่หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 6 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป โดยเฉพาะพื้นที่แอ่งกระทะริมตลิ่งถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร ทำให้ชาวบ้านจำนวนกว่า 300 คนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้
นอกจากนี้ กระแสน้ำยังได้ไหลเข้าท่วมเต็มพื้นที่ภายในสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากแล้ว โดยน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันรีบขนย้ายสิ่งของหนีน้ำไปไว้บนที่สูงของตัวอาคารชั้นสอง ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมืองส่งผลักดันข้ามประเทศไปก่อนน้ำจะท่วมห้องคุมขัง
และในขณะที่ระดับน้ำไม่ลดลง แต่ฝนยังคงตกเพิ่มเป็นระยะทั้งวัน เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ร.4 ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านริมเมย ว่ามีผู้สูงอายุ 1 คน ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงและเป็นอัมพาตครึ่งซีกช่วยเหลือตนเองไม่ได้ติดค้างอยู่ภายในบ้านกับลูกชายที่กำลังจะถูกน้ำท่วมเข้าภายในห้องนอน
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ทหารรับแจ้งเหตุ จึงพร้อมด้วยทีมกู้ชีพจากหลายหน่วยงานในแม่สอดนำเรือท้องแบนฝ่ากระแสน้ำที่ไหลอย่างเชี่ยวกรากด้วยความยากลำบากเข้าไปรับตัวผู้ป่วยสูงอายุรายนี้กับลูกชายออกมาจากบ้านพักที่กำลังจะจมน้ำได้สำเร็จ ก่อนนำตัวส่งให้แพทย์สนามเข้าดูแลตรวจร่างกายอย่างปลอดภัย
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ชีพแม่สอดกล่าวว่า ขณะนี้น้ำเมยยังคงท่วมสูงและมีรายงานว่าชาวบ้านหลายคนติดอยู่ภายในบ้าน ทีมกู้ชีพแม่สอดและจากหลายหน่วยงานต้องใช้เรือติดเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขับฝ่ากระแสน้ำเมยที่ไหลเชี่ยวเข้าไปรับตัวชาวบ้านหลายรายที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านที่มีน้ำท่วมสูง
สำหรับอุปสรรคในการช่วยเหลือนอกจากกระแสน้ำจะไหลแรงแล้ว ยังพบเศษกิ่งไม้และเศษวัชพืชขวางทางน้ำ ทำให้การเดินเรือยากลำบากยิ่งขึ้น และการช่วยเหลือชาวบ้านในจุดอันตรายจุดน้ำวนต้องปฏิบัติการด้วยความระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือนำตัวชาวบ้านที่ติดกลางกระแสน้ำเมยออกมาได้สำเร็จทุกราย พร้อมจัดเวรยามเพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์แม่น้ำเมยตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว
