แม่ฮ่องสอน - โควิดแม่ฮ่องสอนเสี่ยงหวนกลับมาระบาดเพิ่ม..ล่าสุด นอภ.แม่ลาน้อยสั่งปิดที่ว่าการอำเภอฯ หลังพบ จนท.ติดเชื้อ-นร.นั่งรถตู้พื้นที่เสี่ยงเข้าพื้นที่ ด้าน “ปาย” รถต่างถิ่นมาไม่เว้นวัน อบจ.สั่ง พนง.รายงาน Location เช้า/เย็น
นายชูชาติ คำมา นายอำเภอแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ได้ออกประกาศอำเภอแม่ลาน้อย งดบริการ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่ลาน้อยเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ 26 ก.ค.เป็นต้นไป เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) กำลังทวีความรุนแรงและขยายเป็นวงกว้าง พบการติดเชื้อแพร่ระบาดกระจายในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ทั้งยังมีบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่ลาน้อยติดเชื้อแล้ว 1 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงสูงอีก 22 ราย ซึ่งผลการตรวจหาเชื้อครั้งแรกออกมาเป็นลบ (Negative) แต่ยังคงต้องกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งตามมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุข
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น และเพื่อความปลอดภัย รวมถึงความมั่นใจของประชาชนในพื้นที่ จึงขอปิดที่ว่าการอำเภอแม่ลาน้อยเป็นการชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดตามมาตรการของทางสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2564 หากประชาชนท่านใดมีราชการเร่งด่วนให้ติดต่อนายอำเภอแม่ลาน้อย โทร. 08-1867-3851 หรือปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง โทร. 06-3203-7723
นอกจากนี้ยังเกิดกรณีของกลุ่มนักเรียนที่เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐมด้วยรถตู้ที่ทางโรงเรียนจัดหาให้ จำนวน 7 คน ในช่วงของวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้แวะลงระหว่างทาง 1 ราย ที่เหลือได้ลงรถในพื้นที่อำเภอแม่ลาน้อย ต่อมาทราบผลตรวจคนขับรถที่กลับถึงจังหวัดนครปฐมว่าติดเชื้อโควิด-19 ทำให้แพทย์และพยาบาลต้องเร่งติดตามสอบสวนโรคเป็นการด่วนอยู่ในขณะนี้
ซึ่งสถานการณ์โควิดระบาดในสถานที่ราชการทำให้หลายหน่วยงานในแม่ฮ่องสอนยกระดับมาตรการควบคุมตรวจสอบบุคลากรในสังกัดของตนเองมากขึ้น ให้รายงานพิกัดที่ชัดเจนพร้อมกำชับมิให้เดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่มีความจำเป็น อาทิ อบจ.แม่ฮ่องสอน มีคำสั่งภายในให้บุคลากรทุกคนต้องส่งไลน์แจ้งพิกัดที่อยู่ (Location) เป็นปัจจุบันแบบเรียลไทม์วันละ 2 ครั้ง คือเช้า และเย็น เป็นต้น
ด้านชาวบ้านและผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กำลังพากันวิตกกังวลกันทั่ว เนื่องจากพบว่ามีทั้งรถที่ส่วนมากเป็นทะเบียนกรุงเทพมหานคร-พื้นที่สีแดงเข้ม ผู้คนและนักท่องเที่ยว ยังคงเดินทางเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ไม่ขาดสาย จึงได้หาทางแจ้งสายด่วนให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัดได้ดูแลและหาทางตรวจสอบการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ของนักท่องเที่ยวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
