ตาก - อึ้งกันทั้งบาง.. “แม่สอด” หัวเมืองชายแดนไทย-พม่า ใหญ่สุดในภาคเหนือ แทบกลายเป็นเมืองร้าง ชาวบ้านปิดเมืองเองไม่รอมาตรการรัฐ หลังโควิดระบาดหนัก ผู้ป่วยใหม่เพิ่มหลักร้อยต่อวันแถมเสียชีวิตต่อเนื่อง ขณะที่คนติดเชื้อ/กลุ่มเสี่ยงลอบข้ามน้ำเมยเข้าเมืองไม่หยุด
วันนี้ (25 ก.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเมืองแม่สอด จ.ตาก ประตูการค้าชายแดนไทย-พม่า ที่เคยเป็นช่องทางนำเข้า-ส่งออกใหญ่สุดในภาคเหนือ มีมูลค่าการค้าเกิดขึ้นในระดับหลายหมื่นล้านบาทต่อเดือน และคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน ขณะนี้อยู่ในสภาพไม่ต่างจากเมืองร้างทั้งกลางวันกลางคืน
ล่าสุดช่วงเที่ยงเศษที่ผ่านมา บนถนนหนทาง ทั้งเส้นทางที่มุ่งหน้าไปชายแดนไทย-เมียนมา และถนนในย่านใจกลางเทศบาลนครแม่สอด แทบจะไม่มีรถสัญจรเหมือนดังเคย
ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากชาวเมืองแม่สอดพร้อมใจกันปิดเมืองกันเองโดยไม่รอคำสั่งจากภาครัฐ เพราะปัญหาโควิด-19 ที่ระบาดหนักที่สุดในรอบปีนี้ การติดเชื้อระลอกใหม่ที่เริ่มจากกลุ่มคลัสเตอร์โรงงานเย็บผ้าพื้นที่ ต.แม่ตาว อ.แม่สอด ห้วงปลายเดือนมิถุนายน 64 ที่ผ่านมา ได้แพร่กระจายไปแทบทุกชุมชนในเขตชายแดนแม่สอด และไม่มีทีท่าจะคลี่คลายในเวลาอันใกล้นี้
โดยผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อ 24 ก.ค. 64 ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 140 ราย เป็นคนไทย 79 ราย ต่างชาติ 61 ราย (ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 มิ.ย. 64 รวม 2,429 ราย) ตาย 6 รวมเสียชีวิตสะสม 11 ศพแล้ว
ปัญหาโควิดชายแดนแม่สอดแยกไม่ออกจากวิกฤตโควิดฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา เนื่องจากผู้ติดเชื้อหลายรายมาจากการลักลอบข้ามแนวชายแดนผิดกฎหมาย โดยเพียงแค่ว่ายน้ำหรือว่าจ้างกลุ่มคนขับเรือรับจ้างในฝั่งเมียนมาให้พาข้ามน้ำเมย หรือนำส่งพักรอบริเวณเกาะกลางน้ำเมยที่เป็น “โนแมนส์แลนด์” จากนั้นก็หาโอกาสลักลอบข้ามน้ำขึ้นฝั่งแม่สอดต่อได้แบบไม่ยากมากนัก
แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็สร้างปัญหาตามมา เนื่องจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมกลุ่มคนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายหลายรายติดเชื้อโควิดจากกลุ่มคนลักลอบเข้าเมือง และอีกหลายรายกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวเองแบบยกสำนักงาน บางส่วนราชการในแม่สอดต้องประกาศปิดสำนักงานงดให้บริการชั่วคราว จนเจ้าหน้าที่ด่านหน้าเริ่มมีกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ
ล่าสุด ว่าที่ ร้อยตรี ประเสริฐ ปวงละคร นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ได้ประชุมด่วนเจ้าหน้าที่เทศบาลนครแม่สอดเพื่อหาทางแก้ไขสถานการณ์ ก่อนออกประกาศด่วนขอความร่วมมือประชาชนในเขตเทศบาลนครแม่สอดงดออกจากเคหสถานโดยไม่จำเป็น เว้นแต่มีเหตุจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งหลังประกาศดังกล่าวออกมาชาวบ้านต่างให้ความร่วมมือ โดยร้านค้าเกือบทั้งเมืองแม่สอดปิดบริการจนบรรยากาศในตัวตลาดแม่สอดค่อนข้างเงียบเหงา
พ่อค้ารายหนึ่งในตลาดสดนครแม่สอดบอกว่า ตนค้าขายในตลาดนครแม่สอดมานานกว่า 10 ปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตลาดร้างผู้คน ร้านค้าปิดเกือบหมดจากโควิดระบาด ซึ่งตนก็ต้องอดทนออกมาขายอาหารในตลาดแบบขายพอประทังชีวิตเป็นวันๆ ไป เนื่องจากถ้าไม่ขายของก็ไม่มีเงินดำรงชีพ และอยากให้โควิดหายไปจากอำเภอแม่สอดโดยเร็วเพื่อจะได้กลับมาค้าขายได้ตามปกติอีกครั้ง