ชัยนาท - จับแล้ว! โจรแม่ลูกขับกระบะป้ายแดงฉกเงินยายร้านขายกล้วยน้ำว้าในเมืองชัยนาท สารภาพทำจริง พร้อมนำกระเป๋าสตางค์และบัตรประชาชนของผู้เสียหายไปเผาทิ้ง เผยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ระหว่างประกันตัว
จากเหตุคนร้ายแม่ลูกขับรถกระบะป้ายแดง ทำทีมาขอซื้อกล้วยน้ำว้า กับหญิงชรา อายุ 75 ปี ที่ร้านริมถนนบ้านดักคะนน ม.4 ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท และอาศัยจังหวะเผลอฉกกระเป๋าเงินของหญิงชราไป ซึ่งภายในมีเงินจำนวนกว่า 11,000 บาท หนีไป โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.ค.64 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยนาท ได้นำกำลังไปจับกุมคนร้าย 2 แม่ลูกได้แล้ว หลังสืบทราบว่า ทั้งคู่ไปเปิดห้องพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท โดยตำรวจได้แสดงตัวเข้าจับกุม นางสุภาพร หอมชื่น อายุ 41 ปี ผู้เป็นแม่ นายสุวิทย์ อินลี อายุ 21 ปี ลูกชาย ตรวจค้นพบของกลางโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระเป๋าสะพาย เสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุ เงินสดจำนวน 5,700 บาท และรถกระบะสีบรอนซ์ เงิน ทะเบียนป้ายแดง ก 1357 ชัยนาท ที่จอดอยู่หน้าห้องพัก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยคนร้ายทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุขโมยกระเป๋าสตางค์ของหญิงชราไปจริง จากนั้นตำรวจได้พาคนร้ายไปชี้จุดที่นำกระเป๋าสตางค์และบัตรประชาชนของผู้เสียหายไปเผาทิ้งบริเวณริมหนองน้ำ วัดลัดเสนาบดี อ.เมืองชัยนาท ก่อนจะนำตัวกลับไปสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยนาท
จากการสอบสวนทราบว่า นางสุภาพร และ นายสุวิทย์ ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร โดยนางสุภาพร มีประวัติถูกจับดำเนินคดีข้อหาจำหน่ายยาเสพติด โดยอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี ส่วนรถกระบะป้ายแดงเป็นของนายสุวิทย์ ซึ่งพ่อของนายสุวิทย์ ที่เป็นอดีตสามีของนางสุภาพร เป็นผู้ออกเงินค่าดาวน์รถ 80,000 บาทให้ เพื่อหวังให้ลูกชายนำรถกระบะไปใช้ทำมาหากิน แต่กลับนำรถมาใช้ก่อเหตุ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ส่วนนายสน ตำรวจอยู่ระหว่างเค้นสอบ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีด้วย
ด้านนางเฉลิม นาคทอง อายุ 75 ปี ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม เมื่อทราบว่าจับตัวคนร้ายได้แล้ว นางเฉลิม เผยความรู้สึกว่าดีใจ ตั้งแต่เกิดเรื่องรู้สึกเหนื่อยและตกใจมาก เพราะมีโรคประจำตัวหลายโรค เมื่อจับคนร้ายได้หวังว่าจะได้เอกสารทางราชการที่อยู่ในกระเป๋ากลับคืนมา ส่วนเงินสดหากได้กลับคืนมาไม่ครบจะไปเรียกคืนจากนายสน คนที่พาคนร้ายมาหาตนที่บ้าน เพราะเชื่อว่านายสน ต้องมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วย นายสน จึงต้องรับผิดชอบ