เพชรบูรณ์ - กระแส “กล้วยใบด่าง” แรงจริง..ชาวสวนเพชรบูรณ์ปลูกกล้วยไข่-กล้วยน้ำว้ามา 2 ปี ไม่คิดไม่ฝันเจอหน่อกล้วยไข่กำแพงเพชรใบด่าง นึกว่าเป็นโรค โชคดีลูกเห็นก่อน-ขุดขายได้ร่วม 5 หมื่น ส่วนเซียนพระหนุ่มลองเพาะขายเดือนแรกได้เกินแสน
เทรนด์ “ใบด่าง” กำลังมาแรง..กระแสข่าวการซื้อขายกล้วยใบด่างราคาหลักหมื่นหลักแสน บ้างก็ว่าบางหน่อบางต้นได้ถึงหลักล้านที่ว่อนโซเชียลฯ ทำชาวสวนกล้วยทุกพื้นที่ต้องพากันเดินสำรวจหน่อกล้วยกันแบบทุกตารางนิ้ว เผื่อจะเจอหน่อกล้วยใบด่างมาขายทำเงินฝ่าผลกระทบโรคโควิดระบาดกันอย่างคึกคัก
ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ นางบุญพริ้ง ขวัญเจริญ อายุ 43 ปี ชาวบ้านหมู่ 13 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ บอกว่า ปลูกกล้วยมาหลายปีแล้ว มีทั้งกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า แปลงที่พบกล้วยใบด่างนี้เป็นแปลงกล้วยไข่กำแพงเพชร ปลูกมาแล้วประมาณ 2 ปี แต่ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีต้นใบด่างอยู่ด้วย
กระทั่งลูกสาวมาช่วยตัดใบกล้วยแล้วพบว่ามีใบด่างคล้ายที่ออกข่าวในโซเชียลฯ ว่ามีราคาแพง จึงได้มาบอกตน ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจจึงบอกลูกไปว่าอาจจะเกิดจากกล้วยเป็นโรค หลังจากนั้นอีก 2 วันตนเข้าไปในแปลงกล้วยดังกล่าวเพื่อดูแลต้นทุเรียนที่ปลูกแซมไว้ กระทั่งเห็นต้นกล้วยที่มีใบด่างก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปแล้วส่งไปให้พี่สาวดู พี่สาวจึงแจ้งไปยังคนที่รู้จักให้มาดูปรากฏว่าเป็นกล้วยใบด่างที่กำลังเป็นที่นิยมจริงๆ และมีคนมาขอซื้อในราคา 45,000 บาท จึงตกลงขายไป
นางบุญพริ้งเปิดเผยอีกว่า ตนไม่รู้จริงๆ ว่ากล้วยใบด่างที่นิยมกันมีลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าเห็นก่อนลูกสาวก็คงจะตัดทิ้งเพราะคิดว่าเป็นต้นกล้วยที่เป็นโรค ไม่สมบูรณ์ ไม่คิดว่าจะมีราคาขนาดนี้ ชาวบ้านที่ทราบข่าวก็มาขอดูเป็นจำนวนมากแล้วก็พากันกลับไปดูที่สวนของแต่ละคนว่ามีกล้วยใบด่างอยู่หรือไม่ ตนก็คงต้องไปเดินดูแปลงอื่นๆ อีกเช่นกัน เผื่อจะมีใบด่างเหมือนต้นนี้อีก
ขณะที่นายชาติกฤษ มีมอญ อายุ 32 ปี เซียนพระชาวหมู่ 2 ต.นายม อ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพให้เช่าบูชาพระ แต่เนื่องจากเกิดโควิดระบาด ทำให้ตลาดซื้อขายพระที่เป็นตลาดเฉพาะกลุ่มอยู่แล้วซบเซาลงไปอีก พอเห็นกระแสซื้อ-ขายกล้วยใบด่างกำลังมาแรงจึงได้ตัดสินใจไปซื้อต้นกล้วยใบด่างมา 1 ต้นในราคา 12,000 บาท
ตอนนั้นก็ถูกครอบครัวตำหนิว่าไปซื้อกล้วยอะไรมาแพงขนาดนี้ จะเอาไปขายต่อได้หรือ แต่ตนก็ตั้งใจนำมาแยกเพาะ จนกระทั่งประมาณ 2 อาทิตย์ก็สามารถขายต้นอ่อนได้ประมาณ 4 หมื่นบาท ครอบครัวจึงเห็นว่าขายได้จริง จึงให้การสนับสนุน โดยขณะนี้ตนจะเป็นคนเพาะ ส่วนแม่จะเป็นผู้คอยดูแล
สำหรับหน่อกล้วยที่ตนเพาะขายขณะนี้ก็จะมีหลายชนิด เช่น ฟลอริดา น้ำว้าด่างขาว น้ำว้าด่างเหลือง ตานีด่าง เล็บมือนาง ราคาก็อยู่ที่กระถางละ 500-3,000 บาท แต่ถ้าแตกใบสามารถมองเห็นลายของใบด่างแล้วราคาก็จะสูงขึ้นไปอีกตั้งแต่ 5 พันถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว ซึ่งลูกค้าที่เป็นผู้ที่ติดตามในเฟซบุ๊กตนจะเห็นขั้นตอนการเพาะและมีความเชื่อมั่น บางคนก็เดินทางมารับเอง บางคนก็ให้ส่งทางบริษัทขนส่งด้วย
นายชาติกฤษเปิดเผยอีกว่า เมื่อก่อนที่ให้เช่าบูชาพระมีรายได้เดือนละไม่กี่หมื่น แต่พอเปลี่ยนมาเพาะกล้วยใบด่าง แค่เดือนแรกก็มีรายได้แสนกว่าบาทแล้ว ซึ่งตนก็ไม่คิดไม่ฝันว่าตลาดกล้วยใบด่างจะได้รับความนิยมขนาดนี้ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของตนที่ใช้ชื่อ “คุณชาย นายโตโต้” หรือจะโทรศัพท์สอบถาม พูดคุยได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 06-4353-0793