บุรีรัมย์ - หนุ่มแรงงานชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ กลับจากพื้นที่สีแดง หนีออกจากศูนย์กักกันตัวของรัฐหลังกักตัวได้เพียง 4 วัน จนท.ออกตามตัววุ่นพบหนีกลับไปอยู่บ้าน บอกอยู่เฉยๆ แล้วเครียดและยาที่กินประจำหมด พบมีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวชจึงจัดที่กักตัวแยกจากคนอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วย ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์กักกันตัวผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงว่า มีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ระหว่างกักตัวหลบหนีออกจากศูนย์กักตัวโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ที่หนีการกักตัวเป็นชายอายุ 46 ปี ซึ่งเป็นแรงงานก่อสร้างที่เพิ่งเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา
จากนั้นผู้ใหญ่บ้านพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงได้ช่วยกันออกติดตามตัวชายคนดังกล่าว โดยมีคนให้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าวเดินอยู่ริมถนนเส้นเขาพนมรุ้ง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้าน ก็พบชายคนดังกล่าวอยู่บ้าน จึงได้เข้าไปสอบถามถึงสาเหตุที่หนีออกมาจากศูนย์กักตัว ซึ่งชายคนดังกล่าวก็บอกว่า หลังจากกักตัวได้ 4 วันรู้สึกเครียดที่ต้องนั่งๆ นอนๆ ไม่ได้ทำอะไร ประกอบกับยาที่กินประจำหมดจึงตัดสินใจเดินออกมาจากศูนย์ฯ ก่อนจะเรียกรถจักรยานยนต์ข้างทางให้ช่วยมาส่งที่บ้าน ทั้งอ้างว่าได้แจ้งเจ้าหน้าที่แล้วว่าจะกลับบ้านเพราะทนอยู่ถึง 14 วันไม่ไหว
ผู้ใหญ่บ้านจึงพยายามชี้แจงทำความเข้าใจว่าทุกคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัวยังสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว และชุมชน
หลังจากอธิบายสักพักชายคนดังกล่าวก็ยินยอมจะกลับไปกักตัวให้ครบ 14 วัน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าชายรายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยจิตเวช จะรับยามากินประจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ไปแยกกักตัวที่ศาลากลางหมู่บ้าน มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลส่งข้าว ส่งน้ำ และตรวจหาเชื้อในช่วงกักตัวจนครบ 14 วันตามมาตรการ