กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศคำสั่ง บรรเทาความเดือดร้อน นำวัสดุก่อสร้าง- อุปกรณ์เปราะบาง หรือเปียกชื้นไม่ได้ สามารถนำเข้าออก อ.สังขละบุรี ได้ในวันที่ 14 และ 21 ก.ค.
วันนี้ (14 ก.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3340/2564 เรื่อง ผ่อนผันมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3284/2564 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เรื่อง ปิดอำเภอสังขละบุรี และระงับการใช้ช่องทางสำหรับการนำเข้าส่งออกขนส่งสินค้า และสินค้าผ่านแดนทุกประเภท ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นการชั่วคราว และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3300/2564 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2564 นั้น
ระบุว่า เนื่องจากอำเภอสังขละบุรีได้รับเรื่องร้องขอจากผู้ประกอบการที่ไม่สามารถขนถ่ายสินค้า ณ บริเวณหน้าหมวดการทางสังขละบุรี ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรีได้ เนื่องจากมีสินค้าบางอย่างมีสภาพไม่สามารถขนถ่ายได้ หรือมีขนาดและน้ำหนักมาก หากปล่อยไว้เนิ่นนานจะทำให้สินค้าเสียหาย ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้ 1.ผ่อนผันให้รถขนถ่ายสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ที่มีความเปราะบาง หรือที่ไม่สามารถเปียกชื้นได้ เข้าออกในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ในวันที่ 14และ 21 ก.ค. ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติภายใต้มาตรการ D-M-H-T-T-A และข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย หลักการของ Social Distancing โดยเคร่งครัด
2.เพื่อให้การบริหารงานจัดการงานในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงมอบหมายให้นายอำเภอสังขละบุรี เป็นผู้บริหารจัดการสถานการณ์ดังกล่าว โดยใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัย สั่งการโดยยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
3.เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ เฉพาะวันพุธที่ 14 และ 21 กรกฎาคม 2564