กาญจนบุรี - บ้านอีต่อง ดีเดย์เปิดชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 15 ก.ค.นี้ หลังโควิด-19 ระบาด ต้องปิดชุมชนนานนับเดือน แหล่งท่องเที่ยว เร่งรณรงค์สวมหน้ากาก ปฏิบัติตามกฎ สธ.สวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกจากเคหสถาน ส่วนสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ พุ่งต่อเนื่องบวก 20 ราย
วันนี้ (5 ก.ค.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ข้อมูลวันที่ 5 ก.ค.64 ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 20 ราย รักษาหาย จำนวน 16 ราย ทำให้จังหวัดกาญจนบุรีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.64 จนถึงปัจจุบัน สะสม จำนวน 698 ราย เป็นชาย 294 ราย หญิง 404 ราย หายป่วย 16 ราย หายป่วยสะสม จำนวน 403 ราย รักษาอยู่โรงพยาบาล จำนวน 287 ราย เสียชีวิตสะสม จำนวน 8 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันวันนี้ นางอรุณี มหัตกีรติ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านอีต่อง หมู่ 1 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้าน รวมทั้งผู้ประกอบการให้บริการธุรกิจเกี่ยวกับที่พักประเภทโฮมสเตย์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และ อสม.เพื่อหารือเกี่ยวกับการเปิดชุมชนบ้านอีต่อง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวหลังจากที่ได้ปิดหมู่บ้านแบบคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้ามานานกว่า 30 วัน
เนื่องจากก่อนหน้านี้ ชุมชนบ้านอีต่องเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 39 ราย ที่ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจนกลายเป็นคลัสเตอร์บ้านอีต่อง แต่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 39 ราย ได้รับการรักษาจนหายกลับบ้านได้ทั้งหมดแล้ว โดยรายสุดท้ายที่ออกจากโรงพยาบาลคือ ผู้ป่วยรายที่ 288 เป็นชาย อายุ 54 ปี ตรวจพบติดเชื้อวันที่ 17 พ.ค.64 สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 223 รักษาหายออกจากโรงพยาบาลทองผาภูมิตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.64
การตัดสินใจปิดชุมชนบ้านอีต่อง ถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากคนในชุมชนต่างให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ ได้ให้ความช่วยเหลือในการบูรณาการร่วมกันนำข้าวปลาอาหารไปมอบให้ประชาชนในพื้นที่ตลอดเวลา ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับความเป็นอยู่มากนัก
สำหรับการประชุมในครั้งมีมติร่วมกันว่า ให้ผู้ประกอบการรับนักท่องเที่ยวได้ จำนวน 50% ของจำนวนห้องพักที่มีอยู่ กางเต็นท์ได้ไม่เกิน 3 หลัง ก่อนเปิดให้บริการจะต้องได้รับการอนุญาตและได้ใบรับรองจากเจ้าหน้าที่ รพ.สต.เสียก่อน ส่วนกรณีของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อน จะต้องผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อซิโนแวคมาแล้ว 2 เข็ม ส่วนนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า จะต้องผ่านการฉีดมาแล้วอย่างน้อย 1 โดส เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
แต่ถ้าหากนักท่องเที่ยวที่มายังไม่ได้ฉีดวัคซีน จะต้องมีใบรับรองจากโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้นว่าผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 7 วัน รวมทั้งนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมีแอปไทยชนะ โดยหลักเกณฑ์ข้างต้นจะต้องนำเอกสารใบรับรองจากโรงพยาบาลมาด้วย เพื่อจะได้นำส่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจสอบอย่างละเอียด
และนอกจากนี้ ยังมีมติร่วมกันว่าระหว่างนี้จะยังไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่โดยเด็ดขาด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ โดยชุมชนบ้านอีต่อง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี จะเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจในชุมชนบ้านอีต่องจะขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี หากสถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปในทิศทางใด ค่อยมาปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามสถานการณ์นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี เมืองท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีที่นักท่องเที่ยวทั่วประเทศต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ปัจจุบันอำเภอสังขละบุรี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม จำนวน 27 ราย
ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสังขละบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และอื่นๆ ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกจากบ้าน
และในวันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษา และผู้นำชุมชน รวมจำนวน 53 คน 53 โดส แบ่งเป็นวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 51 โดส และวัคซีนยี่ห้อซิโนแวค จำนวน 2 โดส