บุรีรัมย์ - กก.โรคติดต่อ จ.บุรีรัมย์สั่งล็อกดาวน์ 4 หมู่บ้าน อ.เมืองบุรีรัมย์ ห้ามเข้า-ออก 14 วัน หลังพบคลัสเตอร์ปลาส้มทำชาวบ้านติดโควิด-19 มากถึง 38 ราย เร่งตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสัมผัสเพิ่ม พร้อมจัด จนท.ที่ดูแลเสบียงอาหารให้ชาวบ้านทั้ง 676 ครัวเรือน ขณะยอดผู้ป่วยสะสมทะลุ 1,000 ราย เสียชีวิต 4 ราย
วันนี้ (14 ก.ค.) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกคำสั่งกำหนดพื้นที่ควบคุมหรือล็อกดาวน์ พื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านเสม็ด หมู่ 1, บ้านโคกเพชร หมู่ 2, หมู่ 7 และบ้านโนนพลอย หมู่ 19 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ หลังจากตรวจพบคลัสเตอร์จากผู้ประกอบอาชีพทำปลาส้มขาย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 4 หมู่บ้านติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 38 ราย และเสี่ยงสัมผัสหลายราย จึงมีคำสั่งล็อกดาวน์ทั้ง 4 หมู่บ้านห้ามเข้า-ออกเป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-25 ก.ค. 2564 เว้นแต่สามารถควบคุมโรคได้ อาจพิจารณายกเลิกคำสั่งได้ก่อนกำหนด หากมีความจำเป็นจะต้องเข้าหรือออกจากพื้นที่ให้ขออนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรค หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พร้อมกันนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และ รพ.สต.ทำการตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสัมผัสในเชิงรุกด้วย ในส่วนนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ กิ่งกาชาด อำเภอเมือง และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสม็ด อ.เมือง จะรับผิดชอบในการจัดเสบียงอาหารไปมอบให้ประชาชนทั้ง 4 หมู่บ้านที่ถูกสั่งล็อกดาวน์ 676 ครัวเรือน กว่า 2,500 คน จึงขอให้ประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ล่าสุดจากข้อมูลรายงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์พบว่า ทั้งจังหวัดพบผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 1,000 รายแล้ว ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยงถึง 700 ราย รักษาหายแล้ว 281 ราย อยู่ระหว่างรักษา 715 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย
นายอำนวย ล้อมประโคน ผู้ใหญ่บ้าน ม. 2 ต.เสม็ด กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำปลาส้มขาย ต้องไปรับปลามาจากต่างจังหวัดกระจายให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน บางคนไปรับจ้างทำปลา ทำให้มีคนติดเชื้อจำนวนมากกระจายไปใน 4 หมู่บ้านใกล้เคียง จึงถูกสั่งปิดหมู่บ้านห้ามเข้า-ออกเพื่อควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสัมผัสเพื่อค้นหาผู้สัมผัสเชื้อเพิ่มเติม ซึ่งชาวบ้านพร้อมให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำสั่งของภาครัฐ สำหรับเสบียงอาหารได้รับการช่วยเหลือจากทาง อบจ. และกาชาด โดยจะนำมาฝากไว้ที่จุดตรวจหน้าหมู่บ้านเพื่อให้เจ้าหน้าที่นำไปแจกจ่ายต่อ