xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ พิษณุโลก-สหพันธ์ท่องเที่ยวหนุน! ต่อยอด “สวนอินทผลัม GAP เงินล้าน” ปั้นชุมชนท่องเที่ยวพรหมพิราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - กรณีศึกษา “อินทผลัมเงินล้าน-สวนแสงจันทร์ฟาร์ม” ลุงตู้เผยฟื้นชีพที่น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ปลูกมะขามไม่คุ้ม พอลองกิน-ลองเพาะอินทผลัมแทน 2-3 ปีเห็นช่อ-เก็บขายได้ ก่อนพัฒนาต่อจนผ่าน GAP ชาวสวนร่วมเครือข่าย เปิดศูนย์เรียนรู้-ท่องเที่ยวเชิงเกษตรต่อ


นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายสมศักดิ์ ชุ่มแจ่ม นายอำเภอพรหมพิราม นางศศิวัณย์ ศรีพรหม นายกสภาท่องเที่ยวอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก/นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก และสมาชิกสมาคมฯ ได้เยี่ยมชม-เปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้การปลูกอินทผลัมนอกถิ่น “สวนแสงจันทร์ฟาร์ม” หมู่ที่ 1 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม อีกหนึ่งความสำเร็จชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรสุดสัปดาห์นี้

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้ทดลองลงมือทำสมูทตี้อินทผลัม ใช้สัดส่วนอินทผลัมสายพันธุ์บาร์ฮี ผสมกับนมพร่องมันเนยและเกลือ ทำการปั่นจนเนื้อละเอียด เทใส่แก้วพร้อมดื่มเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ จากคุณสมบัติผลไม้มหัศจรรย์ไม่มีคอเลสเตอรอล, ไขมันต่ำ, วิตามินสูง ฯลฯ

พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่พิษณุโลกมีสวนอินทผลัมครบวงจรและมีคนที่มีความรู้ ความสามารถเชี่ยวชาญ สามารถสอนเทคนิคการปลูกอินทผลัมให้เป็นอาชีพได้ และหากพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลกอีกแหล่งก็จะช่วยสร้างรายได้ดึงเม็ดเงินเข้าจังหวัดได้

นางศศิวัณย์ ศรีพรหม ประธานสภาท่องเที่ยวอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก / นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สมาคมฯ สนับสนุนให้ “สวนอินทผลัมสวนแสงจันทร์ฟาร์ม บ้านหอกลอง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวคู่กับเมืองพิษณุโลก เพราะอยู่ไม่ไกลจากเขต อ.เมืองพิษณุโลก เพียงแค่ประมาณ 10 กม.เท่านั้น สอดคล้องกับนโยบายของสมาคมที่สนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ


นายสมชาย แสงจันทร์ หรือลุงตู้ เจ้าของสวนแสงจันทร์ฟาร์ม ที่ลงทุนปลูกอินทผลัมกว่า 20 สายพันธุ์ บนเนื้อที่ราว 22 ไร่ เล่าว่า เดิมที่นี่เป็นสวนร้าง กระทั่งปี 54 มีน้ำท่วมใหญ่ที่พิษณุโลกด้วย จากนั้นก็ปลูกมะขามฝักใหญ่ มีผลผลิตออกมาไม่คุ้มกับรายได้ ทั้งยังประสบปัญหาศัตรูพืชและเชื้อรา กระทั่ง 8 ปีที่ผ่านมามีโอกาสได้รับประทานผลอินทผลัมและทดลองเพาะเม็ดปลูก ปรากฏว่าต้นโตและสามารถให้ผลผลิตออกลูกมาเป็นช่อได้

นับจากนั้นจึงสั่งต้นพันธุ์ที่เพาะจากเนื้อเยื่อจากประเทศคูเวต สายพันธุ์บาเซีย มาปลูกได้ 2-3 ปี ก็ออกผลผลิต และประสบความสำเร็จถึงวันนี้ มีพื้นที่ปลูก 22 ไร่ มีต้นอินทผลัม 333 ต้น เป็นตัวเมีย 290 ต้น ตัวผู้ 43 ต้น รวมทั้งมีเครือข่ายเกษตรกรอีกร่วม 50 ไร่

“เม็ดเงินที่ลงทุนไปนั้นประเมินไม่ได้ ลงทุนไปเรื่อยๆ ถึงระดับล้านบาท แต่ก็คุ้มค่า เนื่องจากได้ผลผลิตปีละหลักล้านบาททุกปี และจริงๆ แล้วปลูกอินทผลัมประมาณ 3 ปีก็ให้ผลผลิตแล้ว เพียงแต่การดูแลอินทผลัมนั้นต้องใส่ใจและต้องเรียนรู้ จึงไม่ใช้สารเคมีใดๆ”

ต่อข้อซักถามที่ว่า ทำไมราคาผลผลิตอินทผลัมยืนอยู่ในระดับราคา 400 บาทขึ้นไป นายสมชายบอกว่า ไม่มีใครบังคับให้ขายต่ำกว่า 400 บาท ปล่อยราคาเสรี ซึ่งจริงๆ ราคาต่ำกว่า 400 บาทก็มีให้เห็น เนื่องจากคุณภาพไม่ดี ลูกเล็ก ไม่หวาน ไม่สมบูรณ์ ราคาสูงถึง 2,000-3,000 บาทต่อกิโลกรัมก็มีเช่นกัน แต่อินทผลัมที่สวนแสงจันทร์ฟาร์มกำหนดราคาสูงสุด (หน้าสวน) สายพันธุ์เบรม เพียง 1,000 บาทเท่านั้น ต่ำสุดคือสายพันธุ์บาร์ฮี 400 บาทต่อกิโลกรัม


ทั้งนี้ “สวนอินทผลัมแสงจันทร์ฟาร์ม” ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP พัฒนาไปสู่เกษตรอัจฉริยะ พร้อมจะถ่ายทอดความรู้ในการปลูกแก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งต้นอินทผลัมเป็นพืชตระกูลปาล์ม มีหลายสายพันธุ์ เติบโตได้ดีในเขตร้อนและแห้งแล้ง ถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้เกิดกระแสรักสุขภาพ ผู้บริโภคนิยมหาซื้อรับประทาน อีกทั้งเจ้าของสวนยังมีน้อยราย ตลาดที่รับซื้อส่วนใหญ่จะเป็น “ตลาดบน” ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชม เลือกซื้ออินทผลัมหรือเรียนรู้วิธีปลูกได้ที่สวนอินทผลัมแสงจันทร์ฟาร์ม บ้านหอกลอง ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม ติดต่อสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ 08-0061-6655






กำลังโหลดความคิดเห็น