หนองคาย - เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนใน ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ยังยิ้มได้แม้จะมีอุปสรรค ภัยทางธรรมชาติถูกพายุพัดต้นทุเรียนหักโค่น ทำให้ผลทุเรียนที่กำลังจะโตขาดหลุดร่วงเสียหาย แต่มีบางต้นยังให้ผลผลิต เติบโตและขายไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งยังเหลือให้ผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนได้ลิ้มชิมรสอีก แต่ต้องเดินทางมาซื้อเองที่สวนเท่านั้น
นางชมชื่น ชื่นตา ชาวบ้านไทยพัฒนา ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เกษตรกรเจ้าของสวนผลไม้ “สวนศิลป์ ถิ่นนาคา” ซึ่งปลูกผลไม้หลายชนิดบนเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ โดยเฉพาะการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง กว่า 20 ต้น ที่ปลูกมานานกว่า 18 ปี โดยได้ผลผลิตและสามารถนำไปขายสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดีมาหลายปีแล้ว
นางชมชื่นเล่าให้ฟังว่า ปีนี้ทุเรียนมีเพียงต้นละไม่กี่ลูก เนื่องจากสภาพอากาศและพายุลมแรงพัดต้นทุเรียนหักโค่นผลทุเรียนก็ร่วงลงมาเสียหายหลายต้น และตอนนี้ทางสวนยังไม่ได้เปิดให้คนจองทุเรียน เนื่องจากทุเรียนมีจำนวนน้อย คนมาทีหลังก็จะไม่ได้รับประทาน จึงไม่เปิดจอง ประกอบกับช่วงนี้ทุเรียนยังอ่อน และมีจำนวนไม่ถึง 30 ลูก เพื่อไม่ให้เกิดความเสียเปรียบได้เปรียบจึงไม่เปิดให้จอง ต้องมาซื้อที่สวนเท่านั้น โดยทางสวนเราจะขายกิโลกรัมละ 150 บาท
นอกจากนี้ นางชมชื่นยังบอกอีกว่าทุเรียนในสวนเราคือ “สวนศิลป์ ถิ่นนาคา” จะมีคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษที่มีความแตกต่างและโดดเด่น คือ เนื้อแน่น รสชาติดี และที่สำคัญคือ ไม่มีกลิ่นฉุน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากกินทุเรียนแต่ไม่ชอบกลิ่นของทุเรียน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในจังหวัดหนองคาย นอกจากทุเรียนแล้ว ยังมีผลไม้ชนิดอื่นอีกหลายชนิด ทำให้เกษตรกรในจังหวัดหนองคายมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีก เช่น ส้มเขียวหวาน, เงาะ, มังคุด ซึ่งในปีนี้ให้ผลผลิตเป็นจำนวนมากเช่นกัน สร้างรายได้มากไม่แพ้ทุเรียนเลยทีเดียว
