ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ก.สาธารณสุขประกาศใช้แนวทาง 4D ยกระดับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ส่งเสริมพัฒนาการด้านอาหาร การเล่น สุขภาพฟัน และการป้องกันโรค พร้อมย้ำสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เผยตัวเลขล่าสุดเด็กอายุ 0-5 ขวบทั่วประเทศติดเชื้อสะสม 4,960 คน หวั่นนำเชื้อแพร่สู่ครอบครัว
เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สถานส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดอาคารสถานส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย หลักสูตรภาษาอังกฤษ และพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยด้านสุขภาพ (4D) เขตสุขภาพที่ 7 โดยมี ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น, นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และบุคลากร ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยด้านสุขภาพ ร่วมเปิด
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการยกระดับคุณภาพการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะด้านสุขภาพร่างกายของเด็ก กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกมาตรการหลักที่สำคัญเพื่อมุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 4 ด้าน "4D” ได้แก่ D ที่ 1 คือ Diet หรือด้านโภชนาการและการเจริญเติบโต มุ่งเน้นการจัดทำเมนูอาหารที่มีความปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม D ที่ 2 คือ Development & play หรือด้านพัฒนาการและการเล่น มุ่งเน้นให้ครูผู้ดูแลเด็กสามารถเฝ้าระวังและติดตามพัฒนาการเด็กด้วยเครื่องมือ DSPM ได้ พร้อมทั้งส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านความเป็นอิสระ (3F : Family free Fun)
ส่วน D ที่ 3 คือ Dental หรือด้านสุขภาพฟัน มุ่งเน้นให้เด็กปฐมวัยทุกคนต้องแปรงฟันหลังอาหารกลางวันทุกวันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และมีกิจกรรมตรวจฟัน และที่สำคัญที่สุดในยุคโควิด-19 คือ D ที่ 4 คือ Diseases หรือด้านการป้องกันโรค มุ่งเน้นให้ครูผู้ดูแลเด็กสามารถจัดสภาพแวดล้อมที่สะอาดเหมาะสม เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยเฉพาะการสอนให้เด็กรู้จักล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และจัดกิจกรรมแบบ small group เพื่อลดการสัมผัสโรค
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลรายงานเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย จังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นพบกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบ่งเป็น เด็ก 34 ครู 8 รวม 42 คน และจากข้อมูลกรมควบคุมโรคเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 พบว่า เด็กเล็ก 0-5 ขวบ ติดเชื้อสะสมทั้งประเทศรวม 4,960 คน ซึ่งอาจจะเป็นการแพร่หรือติดเชื้อไปสู่ครอบครัวได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงเน้นย้ำให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและครอบครัวเฝ้าระวังป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน นายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยขอให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกแห่งทั่วประเทศประเมินตนเองผ่าน Thai stop COVID Plus เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยประเมินรับรองก่อนเปิด และสนับสนุนการฉีดวัคซีนแก่ครูพี่เลี้ยงและเจ้าหน้าที่ทุกคนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย รวมถึงคนในครอบครัวที่มีเด็กปฐมวัยเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโควิด-19
นอกจากนี้ ในช่วงที่เปิดทำการควรกำหนดจุดรับ-ส่งเข้าออกเฉพาะจุดเท่านั้น และไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามายังบริเวณพื้นที่ภายในของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีจุดคัดกรองวัดไข้ จุดล้างมือ ล้างเท้า เปลี่ยนเสื้อผ้าเด็ก รวมทั้งเตรียมการทำความสะอาดสถานที่ อุปกรณ์ ยานพาหนะรับส่งเด็ก และควรกำหนดพื้นที่เว้นระยะห่าง เช่น การทำกิจกรรม การจัดพื้นที่นอน และการกินอาหารด้วย
ในส่วนของครูและผู้ดูแลเด็กนั้น ขอให้ประเมินตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” มีการทำความสะอาดร่างกายก่อนปฏิบัติงาน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่กับเด็ก ส่วนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรดูแลเด็กเป็นพิเศษ หากไม่มีความจำเป็นไม่ควรพาเด็กออกจากบ้าน แต่ทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยให้แก่เด็กให้เหมาะสมตามช่วงวัย หากพบว่าตนเองมีอาการเจ็บป่วยให้หยุดงานและพบแพทย์ทันที