รู้แล้ว! เจ้าของบัญชีหลอกสาวอุดรฯ โอนเงินซื้อวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” เร่งตามจับผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี

อุดรธานี - สตช.สั่ง ภ.จว.อุดรฯ ตามคดีหลอกซื้อวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” ชี้เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉ้อโกงประชาชน และหลอกลวง เบื้องต้นรู้ชื่อคนเปิดบัญชีหลอกเหยื่อโอนเงินแล้ว พร้อมเร่งหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมาย


หลังมีการเสนอข่าวกลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกขายวัคซีนซิโนฟาร์มที่ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่งว่า ตนและเพื่อนรวม 20 คนถูกมิจฉาชีพหลอกขายวัคซีนซิโนฟาร์ม ราคาเข็มละ 1,800 บาท เป็นวัคซีนเหลือจากฉีดให้บุคลากรของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ล่าสุดวันนี้ (1 ก.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจเมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้เรียกประชุมนายตำรวจ ทีมสืบสวน ทีมสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี กรณีมิจฉาชีพถือโอกาสหลอกลวงซ้ำเติมประชาชนในภาวะวิกฤต

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไปแล้วว่ามีความเสียหายเกี่ยวกับการถูกหลอกขายวัคซีนซิโนฟาร์มของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายรายนี้ในจังหวัดอุดรธานีไม่ได้เป็นรายแรก ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้วหลายที่ ประกอบด้วย สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 29-30 มิถุนายน, สน.สมเด็จเจ้าพระยา กทม. เมื่อวันที่ 28-30 มิถุนายน, สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน, สน.เตาปูน กทม. วันที่ 28 มิถุนายน






ส่วนเหตุเกิดที่ สภ.เมืองอุดรธานีนั้น ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้เป็นลักษณะหลอกลวงให้หลงเชื่อ เข้าข่ายฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังมีฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน และฐานความผิดหลอกลวง ความคืบหน้าคดีนี้ ทราบชื่อเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไป สอบถามเจ้าของบัญชียอมรับว่าเป็นผู้เปิดบัญชีจริง ซึ่งบุคคลนี้จะถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังหาวิธีการหลอกลวง คนที่นำข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานหน่วยงานและท้องที่เกิดเหตุ

ฝากไปถึงประชาชนผ่านสื่อมวลชนว่า ระบบการฉีดวัคซีนขอให้ฟังจากส่วนราชการเป็นหลัก โดยเฉพาะ ศบค. ส่วนวัคซีนทางเลือกขอให้ฟังจากราชการเป็นหลักเช่นกัน ประชาชนท่านใดไม่มั่นใจขอให้ติดต่อสอบถามจากระบบทางราชการเท่านั้น นอกจากนี้ หากพบเบาะแสกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง