กาญจนบุรี - พ่อเมืองกาญจน์ประกาศ 2 มาตรการเร่งด่วนเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ฝ่าฝืนเจอทั้งคุกและปรับ
เวลา 19.00 น.วันนี้ (28 มิ.ย.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3033/2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ทั้งนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ด้วยนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2564 กำหนดพื้นที่เป้าหมายเฉพาะและบังคับใช้มาตรการควบคุมที่จำเป็นโดยเฉพาะในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งสิ้น 10 จังหวัด ได้แก่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา)
ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสอดคล้องและเป็นไปตามข้อกำหนดข้างต้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 34 และ 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 8 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2563 และ (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ดังต่อไปนี้
1.การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานในสถานประกอบการโรงงาน 1.1 ขอความร่วมมือภาคเอกชน ผู้ประกอบการ เจ้าของหรือผู้ดูแลสถานประกอบการโรงงานแคมป์คนงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทุกแห่ง ให้ควบคุม กำกับ ดูแล สำรวจตรวจสอบมิให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานในสถานประกอบการที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยมิให้รับแรงงานดังกล่าวเป็นพนักงานในสถานประกอบการนั้นๆ และขอให้เตรียมสถานที่กักกันผู้มีความเสี่ยงภายในสถานประกอบการโรงงาน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อมุ่งจำแนกผู้ติดเชื้อและจำกัดเขตพื้นที่ที่เกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อน และห้ามการเคลื่อนย้ายเดินทางเข้าออกเขตพื้นที่สถานประกอบการโรงงานดังกล่าว
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการ เจ้าของหรือผู้ดูแลสถานประกอบการโรงงาน แคมป์คนงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง อาจต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
1.2 ให้อำเภอเน้นย้ำผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการ เจ้าของหรือผู้ดูแลสถานประกอบการและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ติดตามค้นหาว่ามีบุคคลตามข้อ 1.1 เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบหรือเข้ามาพักอาศัยในสถานประกอบการ โรงงาน หรือสถานที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่หรือไม่โดยเคร่งครัด หากพบว่ามีบุคคลดังกล่าวให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่เพื่อคัดกรองโรค แล้วบันทึกข้อมูลตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ทันที ติดตาม ค้นหา และคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าหมู่บ้าน/ชุมชนทุกราย
กรณีที่พบผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันโรคโดยการคุมไว้สังเกต ณ ที่พำนัก เป็นระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้นั้นเดินทางเข้ามายังพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน และให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นอกหมู่บ้านชุมชนโดยเด็ดขาด หากพบเชื้อให้แยกกักหรือกักกันตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ ให้ทำบัญชีรายชื่อผู้ที่เดินทางเข้าหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อรวบรวมส่งให้อำเภอบันทึกข้อมูลเข้าระบบรายงานข้อมูลผู้เดินทางเข้าหมู่บ้าน/ชุมชน (Thai Quarantine Monitor : Thai QM) ต่อไป
2.กรณีประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 2.1 ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่กรณีเหตุจำเป็นซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด
2.2 กรณีประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และต้องพักค้างคืนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในท้องที่ เพื่อรับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดต้องกักตัวตามมาตรการป้องกันโรค (Home Quarantine)
2.3 สำหรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ได้เข้าพักที่โรงแรม อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ตในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ให้เจ้าหน้าที่ของโรงแรม อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ตที่เข้าพักเป็นผู้บันทึกข้อมูลและรายงานส่งให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ตภายในวันที่บันทึกข้อมูล เพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูลสำหรับตรวจติดตามโรคตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง