รองปลัดกรุงเทพมหานคร ติดตามมาตรการป้องกันห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานในแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อระงับและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวงกว้าง
วันนี้ (28 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมประชาราษฎร์บำเพ็ญ ชั้น 4 สำนักงานเขตห้วยขวาง นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการร่วมประสานงานการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มกรุงเทพกลาง เพื่อดำเนินการกำกับ ควบคุม และติดตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในแคมป์ก่อสร้างและแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 64 โดยมี นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง พร้อมคณะผู้บริหารเขต ร่วมให้ข้อมูลและรับมอบนโยบาย
สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้แถลงหลังจากการประชุมหารือร่วมกับคณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 25 มิ ย. 64 ให้ปิดแคมป์ก่อสร้างและแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมไปถึงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการชั่วคราวระยะเวลา 1 เดือน เพื่อระงับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 6/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขและระงับยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) มีผลตั้งแต่ 28 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป รวมทั้งประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 34) มีผลตั้งแต่ 28 มิ.ย. 64
ทั้งนี้ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้รองปลัดกรุงเทพมหานคร ดำเนินการกำกับ ควบคุม และติดตามการปิดแคมป์ก่อสร้างและแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่เขตที่รับผิดชอบ โดยมอบหมายประธานกลุ่มเขต ทั้ง 6 กลุ่มเขต จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมประสานงานการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าควบคุมและชะลอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งพบระบาดเป็นกลุ่มก้อนกระจายในหลายพื้นที่ รวมทั้งสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเดินทางของกลุ่มเสี่ยง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่เป็นวงกว้างสู่พื้นที่อื่น ๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งกรุงเทพมหานครได้มีมาตรการตรวจสอบเข้มงวดในแคมป์คนงานก่อสร้างและแคมป์ที่พักคนงาน โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการกำกับ และควบคุมดูแลผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด
ในส่วนของการยกระดับมาตรการในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในทุกเขต เป็นเวลา 30 วัน และงดเคลื่อนย้ายแรงงานนั้น เวลา 09.30 น. รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจแคมป์ที่พักคนงาน บริษัท บวิค-ไทย จำกัด ถนนเพชรพระราม แยก 9 เขตห้วยขวาง จากข้อมูล ณ วันที่ 27 มิ.ย. 64 พบว่ามีจำนวนคนงานที่พักอาศัยในแคมป์ ทั้งหมด 834 คน ตรวจพบเชื้อ 194 คน (23.26%) ไม่พบเชื้อ 640 คน (76.74%) ซึ่งในขณะนี้ได้ทำการปิดแคมป์แล้วตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อฯ คำสั่งเลขที่ 1000/2564 ลว. 25 มิ.ย. 64 ปิดตั้งแต่ 26-28 มิ.ย. 64 พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ Bubble and Seal ภายในแคมป์คนงานเพื่อจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงาน และมีการแยกกักตัวผู้ที่ติดเชื้อกับผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงภายในแคมป์อย่างเป็นระบบ โดยมีการแยกกักผู้ป่วย ผู้เสี่ยงสูง และผู้ไม่ติดเชื้อ ออกจากกันอย่างเด็ดขาด เช่น อาคารที่พัก ห้องน้ำ การรับประทานอาหาร โดยมีนายจ้างนำอาหารไปให้บริการในแคมป์ ซึ่งในเบื้องต้นสำนักงานเขตห้วยขวางจะช่วยเหลือส่งมอบอาหารสำหรับผู้ป่วยภายในแคมป์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตห้วยขวาง ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ และฝ่ายความมั่นคงจาก บก.ควบคุม กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เข้าร่วมควบคุมพื้นที่เพื่อควบคุมการเข้า-ออกแคมป์ และการเคลื่อนย้ายแรงงาน ตามแผนที่กำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
จากนั้น เวลา 10.00 น. ลงพื้นที่ลงพื้นที่ตรวจแคมป์ที่พักคนงาน บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด (บ้านพักคนงานสะพานควาย) ซอยพหลโยธิน 15 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท จากข้อมูล ณ วันที่ 27 มิ.ย. 64 พบว่ามีจำนวนคนงานที่พักอาศัยในแคมป์ ทั้งหมด 378 คน ตรวจพบเชื้อ 217 คน (57.41%) ไม่พบเชื้อ 161 คน (42.59%) ซึ่งในขณะนี้ได้ทำการปิดแคมป์แล้วตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อฯ สำนักงานเขตพญาไท วันที่ 21 มิ.ย. 64 ให้แคมป์ฯ ปรับปรุงสถานที่ให้ถูกสุขลักษณะและเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดและห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานเข้า-ออกสถานที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และปฏิบัติตามมาตรการ Bubble and Seal โดยสำนักงานเขตพญาไทร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 11 ประดิพัทธ์ ลงพื้นที่แนะนำและตรวจสอบการจัดแบ่งพื้นที่สำหรับผู้ติดเชื้อภายในแคมป์ โดยแบ่งพื้นที่ผู้ติดเชื้อแยกเป็นสัดส่วน ตามมาตรการอย่างเคร่งครัด พร้อมจัดตั้งกองอำนวยการเฉพาะกิจควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 บริเวณแคมป์ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ บก.ควบคุม กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ เขตพญาไท ประจำการ 24 ชั่วโมง เพื่อควบคุมการเข้า-ออกแคมป์และควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน
จากนั้น รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ณ บริเวณซอยวานิช 2 ข้างสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ โดยมีนางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่เขต ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 13 ไมตรีวานิช สน.พลับพลาไชย และหน่วยงานด้านความมั่นคงจาก ช.พัน 1 รอ. ร้อย.สห.สนาม 3 พน. และพัน ส.ห.12 ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่รับบริการตรวจคัดกรอง โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ทำการตรวจคัดกรองด้วยวิธีค้นหาเชื้อทางโพรงจมูก (SWAB) เป้าหมายวันละ 500 คน สำหรับผู้ต้องการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน ปากกาหมึกสีน้ำเงิน โทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้มาด้วย และควรรับประทานอาหารหรือยารักษาโรคประจำตัวให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ ทั้งนี้สามารถเดินทางมาลงทะเบียนขอรับการตรวจคัดกรองด้วยตนเองได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 64 โดยเริ่มทำการตรวจคัดกรองตั้งแต่เวลา 08.00 - 12.00 น. สอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ เขตสัมพันธวงศ์ โทร. 0 2233 0846