อุดรธานี - “น้องนิม” สาวอุดรฯ วัย 28 ปี เคยทำงานเอเยนซีส่งออกแรงงานในต่างประเทศ ตกงานเพราะพิษโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรก กลับบ้านเกิดฝ่ามรสุมโรค หันมาเลี้ยงปูนาอย่างจริงจังกับครอบครัว จนถึงวันนี้ทำเงินเหยียบแสนบาท/เดือน พร้อมจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปูนา ส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม ลั่นไม่กลับไปหางานรับจ้างใครอีกแล้ว
วิกฤตโรคระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่หาเช้ากินค่ำและบรรดามนุษย์เงินเดือนในหลายรูปแบบ จำนวนไม่น้อยตกงานขาดรายได้ ส่วนหนึ่งถูกลดเงินเดือน ยกเลิกสวัสดิการ อย่างกรณีของ น.ส.นันท์ธนธร มนต์ธนารัตน์ หรือ “น้องนิม” สาวอุดรฯ วัย 28 ปี รายนี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
จากที่เคยทำงานต่างประเทศ (ประเทศจีน) เกี่ยวกับการจัดส่งคนงานจากไทยไปขายแรงในประเทศจีน ทันทีที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอกแรกที่ประเทศจีน งานที่ทำอยู่ต้องหยุดไปโดยปริยาย กลายเป็นคนตกงานชนิดไม่ทันตั้งตัว
เธอจึงตัดสินใจบินกลับบ้านที่ ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมกับเงินเก็บก้อนสุดท้าย ทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะอยู่บ้านช่วยแม่เลี้ยงปูนาไปก่อน เพราะแม่ทำฟาร์มปูนาเป็นรายได้เสริมจากการทำไร่ทำนาอยู่แล้ว ค่อยหางานทำใหม่ หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ดีขึ้น
แรกเริ่มต้องการเลี้ยงปูนาเพื่อแปรรูปส่งขายเท่านั้น แต่อยู่ๆ มีคนมาติดต่อขอซื้อพ่อแม่พันธุ์ ก็เพาะพันธุ์พ่อปูแม่ปูขายตามออเดอร์ ปริมาณขายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอดีใจมากที่เห็นรายได้เข้ามาเป็นกอบเป็นกำ
นอกจากนี้ ได้มีคนมาขอความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงปู ขอศึกษาดูงาน และติดต่อขอซื้ออุปกรณ์การเลี้ยง ทำให้มีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง จนทำให้วันนี้น้องนิม บอกว่า ฟาร์มปูทำเงินเกือบแสนบาทภายในเวลาไม่กี่เดือน
น.ส.นันท์ธนธร บอกอีกว่า หลังจากวิเคราะห์สถานการณ์และมองเห็นลู่ทางหารายได้จากการขายปูนา จึงได้หารือกันในครอบครัวที่จะพัฒนาให้ฟาร์มปูนาเป็นอาชีพหลัก ในที่สุดจึงตัดสินใจจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปูนา โดยเข้าไปส่งเสริมให้ชาวบ้านละแวกนี้เลี้ยงปูนาอีกด้วย โดยจัดอบรมให้ความรู้ แนะวิธีเลี้ยงอย่างถูกต้อง เลี้ยงปูนาส่งขายให้แก่วิสาหกิจชุมชน ขณะนี้มีสมาชิกเลี้ยงปูนารวมแล้วกว่า 40 หลังคาเรือน
ทุกวันนี้นอกจากดูแลฟาร์มปูนาของครอบครัวและบริหารวิสาหกิจชุมชนแล้ว “น้องนิม” ยังได้เดินทางไปเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเลี้ยงปูนาเชิงพาณิชย์ทั้งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และต่างจังหวัดอีกด้วย
“ในอนาคตอีกไม่นานนัก ทางวิสาหกิจเลี้ยงปูนาของเราจะขยายช่องทางการตลาดเพิ่ม โดยส่งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูนาไปยังต่างประเทศ เช่น ปูดอง น้ำพริกปู โดยอาศัยเครือข่ายคอนเนกชันที่เคยทำงานอยู่ต่างประเทศช่วยบุกเบิกตลาด โดยเฉพาะประเทศที่มีคนไทยอยู่เยอะ ทั้งเกาหลี และสิงคโปร์ เพราะที่ผ่านมา คนคิดว่าปูนาส่วนใหญ่จะมีสารเคมี มีพยาธิ แต่ที่เราเลี้ยงอยู่เป็นแบบออแกนิก หรือปลอดสารพิษ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี” น.ส.นันท์ธนธร กล่าวและว่า
หลังจากได้กลับบ้านมาทำฟาร์มปูนา ได้เห็นผลตอบแทนที่เป็นเม็ดเงินรายได้แต่ละเดือนหลายหมื่นบาท บางเดือนเกือบแสนบาท น่าพอใจ ทำให้ ณ วันนี้ตนไม่คิดที่จะกลับไปทำงานที่ต่างประเทศอีกแล้ว เพราะได้อยู่บ้านและได้อยู่กับพ่อกับแม่ และไม่ต้องไปเหนื่อยเหมือนที่ผ่านมา รายได้อาจจะดีเมื่อไปอยู่ต่างประเทศ แต่การหาความสุขก็ไม่เหมือนอยู่ที่บ้านเรา
อย่างไรก็ตาม น้องนิม ย้ำว่า หากใครสนใจอยากเลี้ยงปูนาขายเป็นรายได้เสริม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ฟาร์มปูนา “เรื่องของปู” ถนนอุดรธานี หนองบัวลำภู หลักกิโลเมตรที่ 15 ฝั่งขาเข้าอุดรธานี พร้อมจะให้คำแนะนำฟรี
