บุรีรัมย์ - สพป.เขต 2 บุรีรัมย์ เร่งให้ผู้บริหารโรงเรียนตั้ง กก.สืบข้อเท็จจริงครูวิทย์โหดทำโทษเด็ก ป.6 ให้จีบนิ้วแล้วใช้แปรงลบกระดานตีเกือบ 10 ครั้ง จนนิ้วและเล็บห้อเลือดให้เสร็จโดยเร็วเพื่อลงโทษตามระเบียบ พบประวัติเคยตบหน้านักเรียนหญิงสมาธิสั้นปี 61 จนถูกทำทัณฑ์บน แต่มาก่อเหตุซ้ำซากอีก
วันนี้ (24 มิ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองได้โพสต์เฟซบุ๊กขอความเป็นธรรมกรณีที่ลูกชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ถูกครูสอนวิทยาศาสตร์ทำโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ ด้วยการให้ลูกจีบนิ้วแล้วใช้แปลงลบกระดานตีมือทั้งสองข้างรวม 9 ครั้ง จนปลายนิ้วมือและเล็บทั้งสองข้างห้อเลือด ซึ่งมีนักเรียนในห้องโดนทำโทษแบบเดียวกัน 20 คน สาเหตุเนื่องจากนักเรียนไม่ได้ทำงานที่ครูสั่งทางไลน์ส่งตามเวลา เหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ ทราบว่า ครูวิทยาศาสตร์ยังเดินทางมาโรงเรียนตามปกติ แต่ทางผู้บริหารให้พักการสอนไปทำหน้าที่อื่นชั่วคราว ส่วนเด็กที่ถูกครูคนดังกล่าวทำโทษก็เดินทางมาเรียนตามปกติเช่นกัน สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น
นายบรรพต สรวนรัมย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (รอง ผอ.สพป.) บุรีรัมย์ เขต 2 เปิดเผยว่า ในส่วนของทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ต้นสังกัด ได้เร่งรัดให้ทางผู้บริหารโรงเรียนที่เกิดเหตุตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปผลการสืบข้อเท็จจริงแล้ว ทางโรงเรียนต้องตั้งกรรมการสอบเอาผิดทางวินัยตามขั้นตอน แต่จะเป็นวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง และจะมีบทลงโทษอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางโรงเรียน หลังจากดำเนินการแล้วต้องรายงานผลให้ทาง สพป.ทราบ เพื่อจะได้รายงานศึกษาธิการจังหวัด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบตามขั้นตอนต่อไป
“กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางครูที่กระทำได้ไปขอโทษและพูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียนแล้ว แต่ส่วนเรื่องวินัยก็ว่าไปตามระเบียบ” นายบรรพต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2561 เคยมีผู้ปกครองร้องเรียนว่า ลูกสาวซึ่งเป็นเด็กสมาธิสั้น ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.5 เคยถูกครูวิทยาศาสตร์คนดังกล่าวทำโทษด้วยการใช้มือตบหน้าอย่างแรงต่อหน้าเพื่อนในห้องเรียนเพียงเพราะลูกใส่ที่คาดผมไปโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้ทำทัณฑ์บนเอาไว้ แต่ครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมทำโทษนักเรียนที่รุนแรงเกินกว่าเหตุซ้ำอีก ซึ่งครั้งนี้ผู้ปกครองรอดูว่าทางโรงเรียนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีบทลงโทษทางวินัยกับครูคนดังกล่าวอย่างไร เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ปกครองหลายคนที่ส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้
