เชียงราย - ส่องสถิติการค้าชายแดนผ่านน้ำโขงตอนบน พบลดฮวบต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 62 จนปีนี้ยังไม่ฟื้น เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มูลค่ายังหายเกือบ 20%
นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นต้นมา บรรยากาศการค้าชายแดน การค้าผ่านแดนในแม่น้ำโขงตอนบน ตั้งแต่ชายแดน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พม่า สปป.ลาว สป.จีน ที่เคยคึกคักได้ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด และต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้
นางหัทยา ทิพยะวัฒน์ นายด่านศุลกากรเชียงแสน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเทศจีนได้ปิดท่าเรือเมืองกวนเหล่ย ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านในแม่น้ำโขงของจีน ต่อมา สปป.ลาว ก็ปิดเมืองท่าทุกแห่งที่อยู่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน ทำให้การตั้งชายแดนด้านแม่น้ำโขงในปี 2562 เป็นต้นมาเริ่มลดลง กระทั่งถึงปีงบประมาณ 2563 ลดลงจากปีก่อน 21.42% และปี 2564 ในช่วงเวลาเดียวกันก็ลดลงประมาณ 19%
โดยในปีงบประมาณ 2560 การค้าชายแดนด้าน อ.เชียงแสน มีมูลค่ารวม 21,058.57 ล้านบาท แยกเป็นการนำเข้า 934.56 ล้านบาท ส่งออก 20,124.01 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2561 มีมูลค่ารวม 22,760.41 ล้านบาท แยกเป็นการนำเข้า 710.21 ล้านบาท ส่งออก 22,050.20 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2562 มีมูลค่ารวม 18,463.83 ล้านบาท เป็นการนำเข้า 1,205.73 ล้านบาท ส่งออก 17,258.10 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2563 มีมูลค่ารวม 16,313.93 ล้านบาท แยกเป็นนำเข้ามูล 652.17 ล้านบาท ส่งออก 15,661.76 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2564 (ตั้งแต่เดือน ต.ค.2563-พ.ค.2564) มีมูลค่าการค้ารวม 10,014.25 ล้านบาท แยกเป็นการนำเข้ามูลค่า 530.79 ล้านบาท และส่งออกมูลค่า 9,483.46 ล้านบาท
นางหัทยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงมีการค้ากับเมืองท่าของประเทศพม่าอยู่ โดยสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นเมล็ดดอกทานตะวัน กระเทียมอบแห้ง กระเทียมสด ชิ้นส่วนกระบือแช่แข็ง ส่วนสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์ บุกอบแห้ง สุกรมีชีวิต ซึ่งคาดว่าเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติจะทำให้มีการเปิดเมืองท่าต่างๆ โดยเฉพาะท่าเรือเรือกวนเหล่ยที่เป็นคู่ค้าสำคัญ และจะทำให้มูลค่าการค้ากลับมาคึกคักเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในวงการค้าชายแดนแถมล่มน้ำโขง-สามเหลี่ยมทองคำ หลายรายได้ตั้งสังเกตว่า ปัจจัยที่ทำให้การค้าในแม่น้ำโขงซบเซาลงอาจไม่ได้มาจากเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 เท่านั้น แต่อาจเป็นผลกระทบจากความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อเมริกา ที่ค่อนข้างตึงเครียดด้วยเช่นกัน