นครสวรรค์ - นายอำเภอชุมแสงเปิดอกแจงยิบ หลังเพจดังโพสต์ภาพกล่าวหา นอภ.ยิงหมาจร กระสุนฝังกลางอำเภอ ยันรักสุนัข เลี้ยงอยู่ 2 ตัวด้วยซ้ำ รับเห็นภาพวงจรปิดแล้วคล้ายจริง แต่เป็นตอนตรวจสถานที่ตามปกติ
หลังจากเพจเฟซบุ๊ก “มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์” ได้โพสต์รูปภาพสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย พร้อมกับข้อความระบุในทำนองว่า “สุนัขที่อยู่ในภาพเป็นหมาจรที่อาศัยอยู่ในโรงพัก สภ.ชุมแสง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ชื่อลีโอ ถูกนายอำเภอชุมแสงใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กลางลำตัวจนได้รับบาดเจ็บ เพียงเพราะโมโหที่เจ้าลีโอไปกัดพรม จึงทำให้เกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงเจ้าลีโอจนบาดเจ็บดังกล่าว” พร้อมแนบภาพนิ่งที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ และระบุว่า คนที่อยู่ในภาพคือนายอำเภอชุมแสง เป็นผู้กระทำไว้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม ภาพดังกล่าวอยู่ในจุดที่ค่อนข้างไกล แต่เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ สภ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับที่ว่าการอำเภอชุมแชง โดยได้ไปที่แฟลตตํารวจ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของโรงพักเพื่อตามหาเจ้าลีโอ สุนัขที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ พบว่า สุนัขอยู่ในความดูแลรักษาอาการของตำรวจนายหนึ่ง ชื่อ “ดาบเชฐ” ซึ่งได้อุ้มเจ้าลีโอ สุนัขพันธุ์ไทย เพศเมียวัย 2 ปี สีดำแซมเหลือง ลงมาจากชั้น 2 ของแฟลต ในสภาพมีบาดแผลอยู่กลางลำตัว แต่ถูกรักษาจนบาดแผลเริ่มหาย และอาการดีขึ้นแล้ว มีอาการร่าเริง ไม่ดุร้าย เดินสะบัดหางไปมาด้วยความเป็นมิตรกับผู้คน
สอบถามดาบเชฐ ซึ่งไม่ขอระบุชื่อจริง เปิดเผยว่า เจ้าลีโอ เป็นสุนัขพันธุ์ไทย เกิดจากพ่อคือเจ้าหมี และแม่ชื่อเจ้าโชค ที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสมัยมีการก่อสร้างแฟลตตำรวจ แล้วล่วงเลยมาจนมีเจ้าลีโอ ซึ่งถึงแม้สุนัขทั้งหมดจะเป็นหมาจรที่อยู่ภายในโรงพัก สภ.ชุมแสง แต่ตนก็คอยดูแล และให้อาหารเลี้ยงพวกมันเป็นอย่างดี
ส่วนเจ้าลีโอ เป็นสุนัขที่ไม่ดุร้าย ไม่ทำร้ายคน แต่ยอมรับว่า มันซุกซน และเคยไปกัดข้าวของใครต่อใครจนได้รับความเสียหายบ่อยเช่นกัน แต่ในส่วนเรื่องราวที่เจ้าลีโอถูกคนใจร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร “แต่อยากจะถามคนทำว่า จิตใจทำด้วยอะไร มันไม่น่าจะควรทำ ถ้ามันไม่ทำอะไรไม่ดีมา ก็น่าจะมารอคุยกันก่อน”
“วันนั้นตนจำได้ดี คือวันที่ 8 มิถุนายน ขณะออกเวรมาจากการปฏิบัติงานด้านการจราจร กลับมาถึงแฟลตตำรวจเวลา 11.00 น. ก็พบว่า เจ้าลีโอ นอนหายใจรวยรินหมดแรงอยู่ที่หน้าห้องพักในสภาพมีรอยบาดแผลถูกยิงที่กลางลำตัวเลือดไหลซึม ภาพตอนนั้นน่าหดหู่และน่าสงสารเจ้าลีโอมาก มันได้แต่นอนซมและหันหน้ามามองตนให้ช่วยเหลือ ซึ่งตนไม่รีรอ รีบอุ้มพาไปรักษายังคลินิกรักษาสัตว์ทันที แล้วพบว่า เจ้าลีโอถูกยิงโดยยังมีลูกตะกั่วฝังในอยู่ แต่โชคดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญ และมันยังอดทนจนรอดตายมาได้”
เมื่อถามถึงค่ารักษา ดาบเชฐ ระบุว่า เป็นเงินจากพี่ๆ น้องๆ ตำรวจในโรงพักต่างให้การช่วยเหลือ รวมกันได้ 4,000 บาท มาจ่ายค่ารักษา ส่วนอาการของมันตอนนี้ดีขึ้นมาก แผลจากการถูกยิงเกือบจะหายดีแล้ว แต่ยังคงต้องกินยาฆ่าเชื้อ และยาแก้อักเสบที่สัตวแพทย์จัดให้มาอีกประมาณ 3 วัน แต่ถือว่าตอนนี้เจ้าลีโอกลับมาร่าเริงจนเป็นปกติ ส่วนเรื่องใครจะเป็นคนทำร้ายสุนัข ตนขอไม่ออกความเห็น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแสง หลายๆ นาย ต่างไม่มีการให้ข้อมูล โดยระบุแต่เพียงว่า ไม่ทราบเรื่อง เพิ่งจะมาเห็นว่าเพจเฟซบุ๊กของ “มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์” โพสต์รูปภาพและข้อมูลเอาไว้ จึงต้องรอการตรวจสอบก่อน
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายสุวัฒน์ จันทร์สุข นายอำเภอชุมแสง ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามเพจดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนมาทางอำเภอว่าสถานที่ราชการมีสุนัขจรจัดเยอะ และบางครั้งสุนัขจรจัดเหล่านี้ก็ไปกัดคนที่มาติดต่อราชการ จึงได้มีการแจ้งไปยังส่วนราชการต่างๆ ที่อยู่ในรั้วสถานที่เดียวกัน ซึ่งมีทั้งที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ และส่วนราชการอื่นๆ รวมถึงยังมีบ้านพักข้าราชการอีกหลายจุด ให้ดำเนินการดูแลสุนัข และสัตว์เลี้ยงให้อยู่จำกัดในพื้นที่ ไม่ให้ออกมาสร้างความเดือดร้อน แต่เรื่องที่มีการกล่าวหาว่าตนไปยิงสุนัขนั้นตนขอปฏิเสธ และขอยืนยันว่า ตนไม่เคยทำอะไรแบบนั้น
เมื่อถามถึงเรื่องภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดที่มีการกล่าวหาว่าเป็นตัวนายอำเภอ นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ในภาพดูคล้ายตน แต่ต้องบอกว่า น่าจะเป็นช่วงที่ตนเดินตรวจความเรียบร้อยในสถานที่ตามปกติในช่วงเช้าหรือเย็นทุกวัน ตนจะเดินตรวจแบบนี้อยู่ตลอดอยู่แล้ว จะเจอสุนัขจรจัดมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่บ่อยครั้ง บางทีก็เจอเป็นฝูง แต่เจ้าลีโอ ตนขอยันอีกครั้งว่าไม่เคยเห็น และไม่เคยไปทำร้ายด้วยการยิงอย่างแน่นอน ซึ่งตนก็รักสัตว์เหมือนกัน เพราะมีสุนัขที่เลี้ยงไว้ถึง 2 ตัว
“การที่เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ระบุว่า ตนไปบันดาลโทสะ เพราะเจ้าลีโอกัดพรมเสียหาย ขอบอกว่า ที่ผ่านมาหลายเดือนทางสถานที่ว่าการอำเภอไม่ได้มีการจัดพิธีอะไรใดๆ ที่ต้องใช้พรม และที่บ้านพักมีรั้วรอบขอบชิด ไม่มีพรมวางไว้หน้าบ้านด้วย จึงไม่มีมูลความจริง”
นายอำเภอชุมแสง บอกอีกว่า ตอนนี้ทราบต้นตอแล้วว่าเรื่องมาจากภรรยาของตำรวจนายหนึ่งที่เป็นผู้เลี้ยงดูให้อาหารสุนัขจรจัด ซึ่งตนจะเข้าไปพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจกับบุคคลท่านนั้น และจะไม่มีการฟ้องร้องกลับแต่อย่างใด ส่วนผู้กระทำกับสุนัขคงต้องขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน และหากพบผู้กระทำผิดจะว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น