xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.รพ.มหาสารคามเผยต้องดูแลเด็ก 8 รายติดโควิด-19 เป็นพิเศษ หวั่นห่างอ้อมอกพ่อแม่อาจกระทบสุขภาพจิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหาสารคาม - ผอ.รพ.มหาสารคาม มอบของขวัญเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยเด็กติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 8 ราย ที่กำลังรักษาในห้องผู้ป่วยแยกโรคความดันลบ เผยต้องวางแผนการดูแลรักษาเป็นพิเศษ เพราะยังเป็นเด็กแต่ต้องห่างจากอ้อมอกพ่อแม่ อาจจะมีความกลัว คิดถึงบ้านและครอบครัว กระทบสุขภาพจิตจนส่งผลต่อการรักษาได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 มิ.ย.) ณ หอผู้ป่วยเฉพาะโรค โรงพยาบาลมหาสารคาม นพ.ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม และ น.ส.คนึงนิจ ศรีษะโคตร รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล ตรวจเยี่ยมการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ พร้อมนำกล่องของขวัญและขนมมามอบเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยเด็กติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เชื่อมโยงการติดเชื้อจาก “คลัสเตอร์งานบวช” จำนวน 8 ราย ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล

โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม ได้เขียนคำอวยพรด้วยลายมือของตนเอง มีข้อความว่า “ขอเป็นกำลังใจให้เด็กๆ ทุกคน สุขภาพแข็งแรง หายป่วยโดยเร็ว” แนบไปพร้อมของขวัญทุกกล่อง ซึ่งจะมอบผ่านคณะแพทย์ พยาบาลที่จะสวมชุดป้องกันอย่างรัดกุม นำของขวัญเข้าไปให้เด็กๆ ในห้องผู้ป่วยแยกโรคความดันลบ

พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้พยาบาลประจำหอผู้ป่วยเฉพาะโรค โทรศัพท์แจ้งข้อมูลการรักษาไปยังครอบครัวผู้ป่วยเด็กทุกคนอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสบายใจแก่พ่อแม่และผู้ปกครองทั้งหมด


นพ.ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า ผู้ป่วยเด็กที่กำลังรักษาตัวอยู่ขณะนี้ แยกเป็นเด็กชาย 4 คน เด็กหญิง 4 คน พักรักษาอยู่ที่หอผู้ป่วยเฉพาะโรค เป็นหอผู้ป่วยพิเศษดูแลรักษาเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 มีแพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพ ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ได้รับรักษาประชาชนทั่วไปที่ติดเชื้อโควิด-19 จนหายและกลับไปใช้ชีวิตปกติแล้วมากกว่า 100 คน

แต่ล่าสุดมีผู้ป่วยกลุ่มใหม่เป็นเด็กอายุระหว่าง 8-10 ขวบ จำนวน 8 ราย ติดเชื้อโควิด-19 จากเพื่อนนักเรียนที่มีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์งานบวช ในบ้านหนองบัวโนนมี้ ต.บัวค้อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ของจังหวัด จึงทำให้คณะแพทย์ต้องวางแผนการดูแลรักษาเป็นพิเศษ


โดยนอกจากจะดูแลสุขภาพร่างกาย ยังต้องเพิ่มการดูแลสุขภาพจิตใจของผู้ป่วยเด็กเป็นพิเศษ เพราะคำนึงว่าเด็กที่ต้องห่างจากอ้อมอกพ่อแม่ อาจจะมีความกลัว วิตกกังวล คิดถึงบ้านและครอบครัว กระทบสุขภาพจิตจนส่งผลต่อการรักษาได้

แต่จากการสังเกตเด็กที่ติดเชื้อ ระหว่างที่อยู่ในหอผู้ป่วยมาแล้ว 2 วัน พบว่าเด็กๆ ทั้งหมดมีร่างกายแข็งแรงและร่าเริงแจ่มใสดี ให้ความร่วมมือด้านการรักษา ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิด้วยตนเอง การส่งข้อมูลให้พยาบาลจดบันทึกรายงานสุขภาพ และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์เป็นอย่างดี จึงขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กป่วยคลายความกังวลใจ

โดยโรงพยาบาลจะปฏิบัติหน้าที่ดูแลบุตรหลานท่านอย่างถึงที่สุด เพื่อให้เด็กทุกคนหายและได้กลับไปได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขโดยเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น