เชียงใหม่ - ศูนย์โควิด-19 เชียงใหม่ แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย นำเข้าจาก กทม. ไม่ลงทะเบียน CM-CHANA แต่ยังดีแยกกักตัว ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงเพียงไม่กี่ราย ขณะเดียวกัน แจงเพิ่มไทม์ไลน์ติวเตอร์ติดเชื้อรายก่อนหน้า พบเพิ่งกลับจากจังหวัดแพร่ ที่มีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวพันกันด้วย ชี้ชัดปัจจัยเสี่ยงหลักยังมาจากเชื้อนำเข้า หวั่นทำนบแตกระบาดหนักอีกรอบ
วันนี้ (17 มิ.ย. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน ว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเพียง 1 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 4,122 ราย รักษาหายแล้ว 4,068 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 28 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลรัฐ 23 ราย โรงพยาบาลเอกชน 5 ราย โดยในวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ยังอยู่ที่ 26 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 17 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 9 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 2 ราย และไม่มีผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง)
ขณะที่การตรวจคัดกรองเชื้อผู้สัมผัสและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง รวมทั้งผู้ที่เดินทางจากต่างพื้นที่เข้ามาเชียงใหม่วานนี้ 700 ราย พบติดเชื้อ 1 ราย ซึ่งคือผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ CM4025 เป็นชายอายุ 22 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอดอยสะเก็ด พบมีอาการผื่นขึ้นตามตัวตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 64 จากนั้นวันที่ 15 มิ.ย. 64 เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถยนต์ส่วนตัวร่วมกับพี่สาว 1 คน และไม่ได้สแกน CM-CHANA ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 1-14 มิ.ย. 64 ได้ทำงานอยู่ที่พักตลอด และรับผิดชอบด้วยการแยกกักตัวอยู่คนเดียวที่บ้านอีกหลังหนึ่ง จากนั้นวันที่ 16 มิ.ย. 64 ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และพบเชื้อ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพียงคนเดียว อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ และไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เนื่องจากได้กักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำว่า จากการกรณีผู้ติดเชื้อรายนี้ เป็นข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าปัจจัยเสี่ยงของการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นการนำเข้าจากต่างพื้นที่ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งว่าจะมีการนำเชื้อเข้ามาแพร่กระจายในจังหวัดได้อีก ทั้งที่สถานการณ์ในจังหวัดดีขึ้นตามลำดับ ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงไม่พบผู้ติดเชื้อ และมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังเหลืออยู่ 3 คลัสเตอร์ และไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในคลัสเตอร์เดิมมากว่า 10 วันแล้ว
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของผู้ติดเชื้อรายที่ CM4204 ซึ่งเป็นติวเตอร์ที่ได้มีการรายงานไปเมื่อวานนี้ พบว่า ระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย. 64 ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดแพร่ พบผู้ติดเชื้อที่มีความเกี่ยวข้องกันที่จังหวัดแพร่อีก 1 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อรายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 8 ราย เป็นผู้สัมผัสในที่ทำงาน 7 ราย ผลตรวจเป็นลบ 2 ราย และอยู่ระหว่างการรอผลอีก 5 ราย โดยมีผู้สัมผัสที่เป็นเพื่อน 1 ราย และเคยติดเชื้อโควิด-19 แล้ว จึงให้เฝ้าสังเกตอาการ ส่วนผู้สัมผัสในห้างร้านต่างๆ ที่ผู้ติดเชื้อได้เดินทางไป ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ จึงขอให้เฝ้าสังเกตอาการก่อน ยังไม่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น จังหวัดเชียงใหม่มีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ประชากร 1.2 ล้านคน หรือ 70% ของประชากรทั้งจังหวัด เวลานี้มีผู้ประสงค์ฉีดแล้ว 798,781 คน หรือคิดเป็น 66% ของเป้าหมาย ขณะที่ยอดการจองคิวฉีดวัคซีนผ่านเว็บไซต์ “ก๋ำแปงเวียง” มีผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการฉีดวัคซีนให้ชาวเชียงใหม่แล้วจำนวน 140,422 โดส แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรก 26,977 โดส, ซิโนแวค เข็มแรก 77,763 โดส และ ซิโนแวค เข็มที่สอง 35,702 โดส หรือคิดเป็นจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 104,740 คน ทั้งนี้ ขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ร่วมใจลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโรค โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “ก๋ำแปงเวียง” ช่องทางเดียวเท่านั้น