บุรีรัมย์ - ลุ้นปาฏิหาริย์! ญาติไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้หลาน 8 ขวบถูกน้าโหดจอบตีหัวโคม่ารอดปลอดภัยฟื้นกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ขณะหมอบอกให้ญาติทำใจเพราะกะโหลกศีรษะร้าวกระทบสมองยังไม่รู้สึกตัว หากรอดอาจเป็นเจ้าชายนิทรา จี้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตน้าโหด
วันนี้ (15 มิ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ นายภานุพงษ์ วังคะวิง หรือแหลม อายุ 29 ปี ชาว ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ใช้สันจอบกระหน่ำตีศีรษะ ด.ช.ธนโชติ หรือน้องเก่ง อายุ 8 ขวบ หลานชายแท้ๆ ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวคนโต นอนสลบจมกองเลือดอยู่บริเวณครัวหลังบ้าน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากดื่มสุราเมาคลุ้มคลั่ง ทั้งอ้างว่าเคยทะเลาะกับแม่ของน้อง แต่ทำอะไรพ่อแม่ไม่ได้จึงมาระบายที่หลานแทน ซึ่งน้องเก่ง หลานที่ถูกน้าทำร้ายถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์
ล่าสุดวันนี้ ด.ช.ธนโชติ หรือน้องเก่ง ยังนอนรักษาตัวที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เนื่องจากอาการสาหัสถูกตีจนกะโหลกศีรษะร้าวกระทบกระเทือนสมอง จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัวหมอบอกให้ญาติทำใจเพราะน้องอาการโคม่า ถ้ารอดชีวิตอาจจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
บรรยากาศที่บ้านทั้งครอบครัวญาติพี่น้องต่างพากันจุดธูปกราบไหว้ศาลพระภูมิที่บ้าน เพื่อขอให้ปู่ย่าตายาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองให้น้องเก่ง ปลอดภัยกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม หลังจากที่หมอบอกว่าให้ทำใจเพราะตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย และถึงจะรอดก็อาจจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
ด้าน นางสาวพัชรี วังคะวิง อายุ 25 ปี น้องสาวคนเล็กของผู้ก่อเหตุ และเป็นน้าของน้องเก่ง บอกว่า ตนได้พยายามติดต่อสอบถามอาการของน้องเก่งกับทางโรงพยาบาลตลอด แต่ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมเพราะเป็นช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้โทรศัพท์สอบถามอาการเฉพาะช่วง 11.00 น ถึง 13.00 น.เท่านั้น แต่ที่หมอแจ้งเบื้องต้นตอนนี้คือน้องยังไม่รู้สึกตัวเพราะกะโหลกศีรษะเปิดจนถึงสมอง หมอก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่ ทั้งตนเองและญาติอยากมีปาฏิหาริย์ขอให้น้องเก่งรอดและฟื้นกลับคืนมาถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าชายนิทราก็ยอมรับสภาพได้ ส่วนเรื่องคดีทุกคนในครอบครัวต่างอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอยากให้จำคุกตลอดชีวิตไปเลยไม่อยากให้ออกมาอีกเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย
ส่วน นายภานุพงษ์ หรือแหลม น้าแท้ๆ ที่เป็นผู้ต้องหาทำร้ายหลานถูกแจ้งข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น” ถูกส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์แล้วเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (14 มิ.ย.) ซึ่งตอนที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.บ้านบัว ไม่มีใครไปยื่นขอประกันตัวหรือเดินทางไปเยี่ยมแม้แต่คนเดียว กระทั่งพ่อแม่แท้ๆ ก็ไม่ไปเยี่ยม เพราะทุกคนรับไม่ได้ต่อการกระทำของนายแหลม
