เพชรบูรณ์ – ตำรวจเร่งพิสูจน์ความเร็ว BMW Z4 กลับจากเขาค้อ พุ่งข้ามเกาะกลางถนนสระบุรี-หล่มสัก ชนประสานงาเก๋งสวนทางอีกฝั่งถนน ดับ 3 ศพ ขณะที่ญาติร่ำไห้รับศพผู้เสียชีวิต พี่หนุ่มใหญ่คนขับรถหรูวอนสังคมอย่าเพิ่งพิพากษา
วันนี้(14 มิ.ย.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุสุดสลด รถยนต์เก๋งสปอร์ต ยี่ห้อ BMW แบบ 2 ประตู คูเป้ เปิดประทุน รุ่น Z4 สีส้ม หมายเลขทะเบียน 3 กก 7558 กรุงเทพมหานคร ที่ขับซิ่งฝ่าสายฝนแล้วเกิดเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ชนประสานงากับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ซูซูกิ สวิฟต์ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 1 ขฐ 9316 กรุงเทพมหานคร ที่วิ่งสวนมาบนถนนสระบุรี - หล่มสัก ฝั่งขาขึ้นระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 180-181 หมู่ 7 ต.ห้วยดป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวานที่ผ่านมา
ซึ่งทำให้ น.ส.กรกฏ หิรัญ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 1 ซ.หมู่บ้านเนินเขา ซอย 9 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ซูซูกิ และ น.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249/38 ซ.รามคำแหง 112 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ที่นั่งข้างคนขับ เสียชีวิตคาที่อยู่ภายในรถ
ส่วนนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง อายุ 50 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ BMW ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองไผ่ในเวลาต่อมา ขณะที่ น.ส.เมษสวรรค์ แทนรัตน์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165/293 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่นั่งข้างนายสุรภักดิ์คนขับ ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาข้างซ้ายหัก ถูกส่งต่อจากโรงพยาบาลหนองไผ่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
พ.ต.อ.พีระเพชร อุบลจิตต์. ผกก.สภ.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความเร็วของรถ BMW Z4 ที่พุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะขับเร็ว เพราะพบหลักฐานการขับแซงรถมาหลายคัน
โดยวันนี้ตำรวจวิทยาการ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ว่า การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากสภาพถนนหรือสภาพรถ และในขณะเกิดเหตุ ยางแตกหรือเบรกรถมีปัญหาหรือไม่ ส่วนเรื่องเมาแล้วขับ ก็มีการเจาะเลือดผู้เสียชีวิตไปตรวจ จะทราบผลอีก 14 วัน ซึ่งขณะนี้ต้องรอหลักฐานจากตำรวจวิทยาการ และหลักฐานจากทางโรงพยาบาลมาพิจารณาประกอบคดี
ขณะที่พ่อแม่และญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลหนองไผ่ เพื่อรอรับศพนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด
นายนิติ วรรณกายนต์ อายุ 63 ปี พ่อของ น.ส.วรรณกานต์ หรือน้องอุ้ย เล่าว่า ลูกสาวตนเรียนจบวิศวกรเคมี จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ขณะนี้ทำงานเป็นวิศวกรเคมีอยู่บริษัทผลิตรถยนต์ จะเดินทางมาบ้านทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งก่อนเกิดเหตุ น้องอุ้ยได้โทรมาบอกทางบ้านว่าจะกลับมาบ้าน ตนและครอบครัวก็รู้สึกดีใจ เตรียมทำกับข้าวที่น้องอุ้ยชอบรับประทาน โดยตนได้ไปเก็บผักในสวนมาเตรียมไว้ แต่ต้องมารับทราบข่าวร้ายว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
“ตอนรู้ข่าวตนพยายามตั้งสติ แต่นางจารุนันท์ แม่ของน้องอุ้ยถึงกับช็อกนิ่งเงียบไม่พูดจาเลย น้องอุ้ยเขาเป็นคนน่ารักมีนิสัยร่าเริงรักพ่อแม่ ถ้ารู้ว่าพ่อแม่อยากได้อะไรจะรีบซื้อให้ รถยนต์ที่ตนขับอยู่ทุกวันนี้ น้องอุ้ยก็เป็นคนซื้อให้ ซึ่งตนคิดว่าอนาคตลูกสาวคนนี้ กำลังจะไปได้ดีมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน”
ด้าน นายภูริทัต ภูไชยแสง พี่ชายของนายสุรภักดิ์ คนขับรถเก๋งสปอร์ต BMW ที่เสียชีวิตด้วย เล่าว่า น้องชายเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว เป็นคนมีฐานะดี และยังเป็นโสดไม่มีครอบครัว แม่ทั้งรักทั้งห่วงลูกชายคนนี้มาก ตั้งความหวังจะฝากผีฝากไข้กับลูกชายคนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาน้องชายดูแลและรับผิดชอบแม่ที่อายุ 80 ปี เป็นอย่างดี
“ในฐานะที่ตนเป็นพี่ชายอยากจะขอร้องต่อสังคมว่า ขอให้โอกาสพวกเราบ้าง เพราะครอบครัวเราก็สูญเสียเหมือนกัน อยากจะขอร้องสื่อมวลชนให้เป็นกระบอกเสียงว่า อะไรที่มันยังไม่ชัดเจนอย่าไปประณาม อย่าพิพากษาโดยสังคม เรื่องมันอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ แต่มันยังไม่ถึงเวลา เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังอยู่ในช่วงรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ขอนำเรียนสื่อว่าน้องชายไม่ได้ไลฟ์สดในขณะเกิดเหตุ และไม่ได้ขับรถเร็ว ซึ่งในสื่อโซเชียลสามารถเปรียบเทียบได้ ซึ่งขณะนี้กำลังหาภาพกล้องหน้ารถทั้งสองคัน และคำยืนยันของผู้รอดชีวิต ที่ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์อยู่”