กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์นั่งหัวโต๊ะถกบริหารจัดการวัคซีน พร้อมขอความร่วมมือ จาก อปท.สั่งจอง 20% ที่ผ่านมา ยอมรับผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไม่ใช่ตัวถ่วงให้ช้า แต่ที่ถ่วงให้ช้าคือจำนวนวัคซีนที่ได้น้อย
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปลดล็อกให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดซื้อวัคซีนนำไปฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ได้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมแควใหญ่ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานประชุมหารือแนวทางบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามประกาศข้างต้น
โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายจรินทร์ อิ้วสวัสดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งนายอำเภอ ตัวแทนจากทั้ง 13 อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัดเข้าร่วม โดยการประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังว่า ตามที่ทราบกันแล้วว่า ศบค.ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา ปลดล็อกให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถใช้งบจัดซื้อวัคซีนฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ได้
ดังนั้น วันนี้จึงมีการเรียกประชุมเพื่อพูดคุยกันให้ผู้นำท้องถิ่นได้เข้ามาร่วมมือกัน รวมทั้งมีการชี้แจงซักซ้อมทำความเข้าใจในวิธีขั้นตอนของการจอง ซึ่งเป้าหมายของจังหวัดกาญจนบุรี คือ อยากให้ประชาชนทุกคนได้มีการฉัดวัคซีนให้ครบ 100% โดยจังหวัดได้ขอความร่วมมือกับผู้นำท้องถิ่นได้สั่งซื้อวัคซีนในจุดที่เป็นจุดเร่งด่วนของในแต่ละท้องถิ่นนั้นๆเช่น จุดที่เป็นชุมชน หรือจุดที่มีผู้คนอาศัยอย่างหนาแน่น ซึ่งจุดเหล่านี้สมควรที่จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือกับผู้นำท้องถิ่นช่วยกันสั่งจองวัคซีนท้องที่ละ 20% เมื่อนำมารวมกับวัคซีนที่ทางรัฐบาลส่งมาให้จะทำให้ประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100% ในเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งสาระของการประชุมวันนี้คือ การขอความร่วมมือกับผู้นำท้องถิ่น และการซักซ้อมวิธีการสั่งวัคซีน เพระในวันที่ 14 มิ.ย.นี้จะมีการเปิดให้มีการสั่งจอง ดังนั้น ทางท้องถิ่นจะได้มีการเตรียมการเอาไว้ให้ถูกต้อง
จากการที่ได้พูดคุยกับผู้นำท้องถิ่น ต่างให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี และที่น่ายินดีคือบางท้องถิ่นสอบถามมาว่าจะขอจองวัคซีนมากกว่า 20% ได้หรือไม่ ซึ่งตอบไปว่าแล้วแต่ความสมัครใจ แต่การที่ให้ท้องถิ่นสั่งจอง 20% เพราะจังหวัดได้คำนึงถึงรายได้ของแต่ละท้องถิ่นด้วย จึงไม่ต้องการให้ไปกระทบกระเทือนกับงบประมาณรายได้มากเกินไป ซึ่งให้ท้องถิ่นใช้การสั่งจอง 20% เป็นเกณฑ์ แต่บางท้องถิ่นมีการสั่งจองเป็นจำนวนมากก็มี
สำหรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 17,000 คน ซึ่งเราได้มีการจัดทำแผนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับจำนวนของวัคซีนที่จะได้มาเท่านั้นเอง โดยได้มาเท่าไหร่เราจะฉีดไปจนหมด
อันที่จริงแผนที่เราวางเอาไว้เราสามารถฉีดได้หมด จำนวน 5 แสนคนใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แต่จากตามข้อเท็จจริงแล้วคงจะไม่สามารถทำได้ เพราะวัคซีนที่ได้มาเป็นการทยอยส่งมาเรื่อยๆ จึงน้อยกว่าศักยภาพจริงที่ทางจังหวัดสามารถฉีดให้ประชาชนได้ ซึ่งศักยภาพของจังหวัดกาญจนบุรีนั้นสามารถฉีดได้มากถึงวันละประมาณ 13,000 คน ซึ่งวัคซีนล็อตที่ผ่านมาทั้งจังหวัดเราได้มาแค่ 7,500 โดสเท่านั้น จึงทำให้การฉีดวัคซีนง่ายด้วยการทยอยฉีดวันละ 2,000-3,000 คน เท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอวัคซีนล็อตใหม่ที่กำลังจะส่งมาให้
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ครั้งที่ผ่านมาประชาชนเป้าหมายอายุ 60 ปีขึ้นไป กับกลุ่ม 7 โรคได้จองการฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม โดยมีผู้เข้าไปจองประมาณ 75,000 คน แต่วัคซีนที่ได้มามันจึงทำให้ทำการฉีดให้ประชาชนนั้นช้า ซึ่งทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับจำนวนของวัคซีน ดังนั้น คนที่ลงทะเบียนเอาไว้ไม่ได้เป็นตัวถ่วงที่ทำให้ฉีดวัคซีนช้า แต่ว่าตัวถ่วงที่ทำให้ช้าคือวัคซีนเพราะวัคซีนนั้นมาช้า
สุดท้ายนี้ขอเรียนชี้แจงไปถึงประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีว่า อยากให้ประชาชนมั่นใจว่าทางจังหวัดได้พยายามกันอย่างเต็มที่ ซึ่งศักยภาพหรือในส่วนของกรอบที่ถูกวางไว้เราทำกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว และเราได้พยายามจัดหาอย่างอื่นมาเสริมเพื่อที่จะทำให้จังหวัดกาญจนบุรีของเรานั้นกลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่คึกคักเหมือนเดิม ซึ่งเราได้ทำเต็มที่แล้วในศักยภาพที่เรามีอยู่ นายจีระเกียรติ เผย