ปลื้ม “บ้านคนบ้านช้าง” ติดอันดับ 5 พาวิเลียนคนแห่ชมเวนิสเบียนนาเล เชื่อโควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวไทย ต่างชาติแห่เที่ยว จ. สุรินทร์
ดร.วิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก สศร. ร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งผลงาน ”บ้านคนบ้านช้าง” ของ ผศ.บุญเสริม เปรมธาดา ศิลปินศิลปาธร ไปจัดแสดงในไทยพาวิเลียน ภายในนิทรรศการสถาปัตยกรรมนานาชาติเวนิสเบียนนาเล ครั้งที่ 17 ณ เมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี โดยมี 46 ประเทศเข้าร่วมจัดแสดง ซึ่งมีการกำหนดหัวข้องานว่า “เราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร” โดยล่าสุดเว็บไซต์ dailyartmagazine.com ได้นำเสนอการจัดอันดับ 5 พาวิเลียนที่น่าสนใจภายใน นิทรรศการสถาปัตยกรรมนานาชาติ เวนิสเบียนนาเล และเป็นที่น่ายินดีที่พาวิเลียนไทยติดอันดับ 1 ใน 5
สำหรับการจัดแสดงThe Elephant (บ้านคนบ้านช้าง) โดยมี รศ.ดร.อภิรดี เกษมศุขเป็นภัณฑารักษ์ ได้ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างการอยู่ร่วมกันของคนกับช้างไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยได้มีการสำรวจเรื่องราวของชาวกูย กลุ่มชาติพันธุ์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยที่ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับช้างมายาวนานหลายร้อยปี จากนั้นนำเนื้อหามาร้อยเรียงบอกเล่าผ่านนิทรรศการนำเสนอบ้านที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงทั้งคนและช้างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งได้รับรายงานว่าผลงานบ้านคนบ้านช้างมีผู้เข้าชมให้ความสนใจไม่ขาดสาย
ดร.วิมลลักษณ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีอีก 4 พาวิเลียน ได้แก่ อุซเบกิสถาน เสนอเรื่องราวของ mahallas หรือชุมชนที่อยู่อาศัยในเขตปกครองตนเอง รวมถึงเสนอพื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์และรูปแบบทางสังคมของชุมชนดังกล่าว ประเทศแอลเบเนีย : The Neighborliness บอกเล่าการเฉลิมฉลองแนวคิดเพื่อนบ้านที่ดีและวิวัฒนาการจากสังคมชุมชนไปสู่ความเฉยเมยอันโดดเดี่ยวประเทศแคนาดา: The Impostor Cities มีการวิเคราะห์สถาปัตยกรรมเมืองผ่านประวัติศาสตร์ของฉากในภาพยนตร์ที่ไปถ่ายทำที่แคนาดา และมีการจำลองกรุงโตเกียว ปารีส ลอนดอน หรือมอสโก ด้วย และประเทศเปรู: The Playground
สร้างแนวคิดเมืองซึ่งประตูและรั้วถูกยกออกไป เปลี่ยนพื้นที่สาธารณะให้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์คล้ายสนามเด็กเล่น
ซึ่งเชิญชวนให้มาสำรวจและมีปฏิสัมพันธ์กัน
“บ้านคนบ้านข้าง ผลงานของศิลปินไทย ทำให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ด้วยการสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น จ.สุรินทร์ ทั้งช้างและคนที่อยู่ด้วยกันใกล้ชิด โดยผู้เข้าร่วมแสดงผลงาน นักท่องเที่ยว ผู้ชมงานศิลปะครั้งนี้จะได้เห็นความงดงามของวัฒนธรรมไทย เกิดความประทับใจ ที่สำคัญ ลดภาพจำการใช้แรงงานช้างหรือนำช้างไปเร่ร่อนในเมือง อีกทั้งแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว หลังโควิด-19 คลี่คลายเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติจะหลั่งไหลมาเที่ยว จ.สุรินทร์เพิ่มขึ้น” ดร.วิมลลักษณ์ กล่าว
ดร.วิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก สศร. ร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งผลงาน ”บ้านคนบ้านช้าง” ของ ผศ.บุญเสริม เปรมธาดา ศิลปินศิลปาธร ไปจัดแสดงในไทยพาวิเลียน ภายในนิทรรศการสถาปัตยกรรมนานาชาติเวนิสเบียนนาเล ครั้งที่ 17 ณ เมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี โดยมี 46 ประเทศเข้าร่วมจัดแสดง ซึ่งมีการกำหนดหัวข้องานว่า “เราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร” โดยล่าสุดเว็บไซต์ dailyartmagazine.com ได้นำเสนอการจัดอันดับ 5 พาวิเลียนที่น่าสนใจภายใน นิทรรศการสถาปัตยกรรมนานาชาติ เวนิสเบียนนาเล และเป็นที่น่ายินดีที่พาวิเลียนไทยติดอันดับ 1 ใน 5
สำหรับการจัดแสดงThe Elephant (บ้านคนบ้านช้าง) โดยมี รศ.ดร.อภิรดี เกษมศุขเป็นภัณฑารักษ์ ได้ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างการอยู่ร่วมกันของคนกับช้างไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยได้มีการสำรวจเรื่องราวของชาวกูย กลุ่มชาติพันธุ์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยที่ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับช้างมายาวนานหลายร้อยปี จากนั้นนำเนื้อหามาร้อยเรียงบอกเล่าผ่านนิทรรศการนำเสนอบ้านที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงทั้งคนและช้างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งได้รับรายงานว่าผลงานบ้านคนบ้านช้างมีผู้เข้าชมให้ความสนใจไม่ขาดสาย
ดร.วิมลลักษณ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีอีก 4 พาวิเลียน ได้แก่ อุซเบกิสถาน เสนอเรื่องราวของ mahallas หรือชุมชนที่อยู่อาศัยในเขตปกครองตนเอง รวมถึงเสนอพื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์และรูปแบบทางสังคมของชุมชนดังกล่าว ประเทศแอลเบเนีย : The Neighborliness บอกเล่าการเฉลิมฉลองแนวคิดเพื่อนบ้านที่ดีและวิวัฒนาการจากสังคมชุมชนไปสู่ความเฉยเมยอันโดดเดี่ยวประเทศแคนาดา: The Impostor Cities มีการวิเคราะห์สถาปัตยกรรมเมืองผ่านประวัติศาสตร์ของฉากในภาพยนตร์ที่ไปถ่ายทำที่แคนาดา และมีการจำลองกรุงโตเกียว ปารีส ลอนดอน หรือมอสโก ด้วย และประเทศเปรู: The Playground
สร้างแนวคิดเมืองซึ่งประตูและรั้วถูกยกออกไป เปลี่ยนพื้นที่สาธารณะให้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์คล้ายสนามเด็กเล่น
ซึ่งเชิญชวนให้มาสำรวจและมีปฏิสัมพันธ์กัน
“บ้านคนบ้านข้าง ผลงานของศิลปินไทย ทำให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ด้วยการสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น จ.สุรินทร์ ทั้งช้างและคนที่อยู่ด้วยกันใกล้ชิด โดยผู้เข้าร่วมแสดงผลงาน นักท่องเที่ยว ผู้ชมงานศิลปะครั้งนี้จะได้เห็นความงดงามของวัฒนธรรมไทย เกิดความประทับใจ ที่สำคัญ ลดภาพจำการใช้แรงงานช้างหรือนำช้างไปเร่ร่อนในเมือง อีกทั้งแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว หลังโควิด-19 คลี่คลายเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติจะหลั่งไหลมาเที่ยว จ.สุรินทร์เพิ่มขึ้น” ดร.วิมลลักษณ์ กล่าว
