ลพบุรี - ภัยแล้งคุกคามลพบุรี ชาวนาหลายตำบลขาดน้ำทำนาปี ต้องช่วยตัวเองสูบน้ำเข้านาเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะตายกว่า 3,000 ไร่ โรงสูบน้ำชลประทานใช้ไม่ได้ ระดับน้ำไม่พอสูบ ในขณะที่ชลประทานดูแลพื้นที่เตรียมนำเครื่องสูบน้ำมาช่วย
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาที่ ต.หนองทราบขาว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยนายเกียรติศักดิ์ ทองแก้ว อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.หนองทรายขาว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง จึงได้มารวมตัวกันโดยใช้เงินกองทุนชลประทานของกลุ่ม ว่าจ้างรถแบ็กโฮ มาขุดดิน ทำแท่นเพื่อติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณริมคลองส่งน้ำชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก
เนื่องมาจากในช่วงนี้เป็นฤดูกาลทำนาปี ซึ่งเกษตรกรที่ตำบลแห่งนี้มีการทำนาปีละ 1 ครั้ง และในขณะนี้ได้หว่านข้าวเรียบร้อยแล้วประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา และเมื่อเดือนเมษายน น้ำในคลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก มีระดับน้ำสูงทำให้ชาวนาเริ่มทำนา และมีฝนตกลงมาบ้าง แต่ประมาณเดือนกว่าๆ ฝนกลับทิ้งช่วงไม่ตกลงมา ทำให้ต้นข้าวที่กำลังขึ้นอยู่ต้องขาดน้ำ กำลังจะแห้งตาย ในขณะที่ผู้ที่ทำมาก่อนต้นข้าวเริ่มที่จะตั้งท้องก็แห้งตายเช่นกัน
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ชาวนาต้องเดือดร้อนอย่างหนัก อีกทั้งโรงสูบน้ำของชลประทานที่ตั้งอยู่ปากคลองสะพานขาว ซึ่งเป็นที่สูบน้ำส่งให้เกษตรกรผู้ทำนาได้ใช้น้ำไม่สามารถที่จะทำการสูบได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก มีระดับที่ต่ำกว่า ด้วยเหตุนี้ ชาวนาในตำบลหนองทรายขาว โดยเฉพาะในหมู่ที่ 4 ที่มีการทำนากว่า 3,000 ไร่ ที่ต้องใช้น้ำจากโรงสูบน้ำแห่งนี้ไม่มีน้ำ ถ้าไม่มีน้ำจากคลองชลประทานไปช่วย หรือฝนไม่ตกลงมาภายในอาทิตย์นี้ข้าวต้องแห้งตายหมดแน่นอน
นอกจากนี้แล้ว อีกหลายพื้นที่ใน จ.ลพบุรี ก็ประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงเช่นกัน อยู่ในเขต ต.โคกตูม ซึ่งมีการทำไร่อ้อยที่กำลังปลูกใหม่ ไม่มีน้ำรด ทำให้แห้งตายไปเป็นจำนวนมาก และคลองชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักในการนำน้ำดิบมาผลิตน้ำประปาเริ่มแห้ง ทางการประปาส่วนภูมิภาคได้มีการประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านผู้ใช้น้ำให้ใช้อย่างประหยัด หรือหาภาชนะเตรียมรองน้ำสำรองไว้ใช้เผื่อฉุกเฉินด้วยเช่นกัน