ชัยนาท - ชาวนาชัยนาท 5 ตำบล เดือดร้อนหนัก นาข้าว 5,000 ไร่ กำลังขาดน้ำเสี่ยงแห้งตายหลังฝนทิ้งช่วงนานนับเดือน ซ้ำแม่น้ำเจ้าพระยาลดต่ำกว่าระดับเก็บกักกว่า 4 เมตร
วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางหลวง อ.สรรพยา จังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชลประทาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต 16 และชาวนาจำนวนกว่า 50 คน ช่วยกันนำกระสอบทรายและเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปติดตั้งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อสูบน้ำเข้าคลอง 1 ซ้ายบรมธาตุ ไปช่วยเหลือนาข้าวในพื้นที่ 5 ตำบล จำนวนกว่า 5,000 ไร่ ที่กำลังขาดน้ำใกล้ตาย เนื่องจากฝนทิ้งช่วงนานนับเดือน และแม่น้ำเจ้าพระยาลดต่ำลง ส่งผลน้ำในคลองชลประทานแห้งขอด
นายจิระศักดิ์ เจริญศิลป์ นายกเทศมนตรีตำบลบางหลวง เปิดเผยว่า หลังจากช่วงปลายเดือนเมษายน 2564 ได้มีฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดชัยนาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวนาในพื้นที่ ต.บางหลวง ต.สรรพยา ต.เจ้าพระยา อ.สรรพยา และ ต.ห้วยกรด ต.ห้วยกรดพัฒนา อ.สรรคบุรี ต่างลงมือปลูกข้าวนาปี รวมจำนวนกว่า 5,000 ไร่ แต่เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคมกลับไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่เลย
อีกทั้งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็ลดต่ำลงมากเหลือเพียง 12.17 เมตร ซึ่งต่ำกว่าระดับเก็บกักน้ำกว่า 4 เมตร และต่ำกว่าปากคลองส่งน้ำ 1 ซ้ายบรมธาตุ กว่า 2 เมตร จึงไม่มีน้ำไหลเข้าคลอง ส่งผลให้ชาวนา 5 ตำบล ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังใกล้ตายทำให้ชาวนาบางรายต้องยอมทิ้งข้าวให้ตาย เพราะไม่มีน้ำ
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวนา ทางเทศบาลจึงประสานขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานชลประทานที่ 12 และ ศูนย์ ปภ.เขต 16 ชัยนาท นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 3 เครื่อง ไปติดตั้งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อสูบน้ำเข้าคลอง 1 ซ้าย ให้ชาวนาผลัดเวรกันใช้น้ำตำบลละ 4 วัน ในการนำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว ประทังไม่ให้ข้าวแห้งตายระหว่างที่รอให้มีฝนตกลงมาในพื้นที่
ด้าน นายทวี สุนิมิต อายุ 68 ปี ชาวนา ต.บางหลวง บอกว่า ตนเองทำนา 40 ไร่ ตอนนี้ข้าวอายุได้ 60 วัน แต่ขาดน้ำหล่อเลี้ยงมานาน 1 เดือนแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ตนลงมือปลูกข้าวเร็ว เนื่องจากในที่นามีบ่อน้ำบาดาล และในช่วงสงกรานต์มีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับฟังข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยา ที่รายงานว่า ปีนี้ฝนจะดีกว่าปีก่อน คิดว่าปีนี้คงไม่ขาดน้ำทำนาแน่นอน จึงได้ลงมือปลูกข้าวเร็ว แต่ปรากฏว่าตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมาไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ ซ้ำแม่น้ำเจ้าพระยาก็ลดต่ำลงมาก ทำให้น้ำในคลองชลประทานแห้งขอด
ส่วนน้ำบาดาลที่มีก็ไม่เพียงพอที่จะนำไปใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวได้หมดทั้งแปลง ทำให้ตอนนี้ข้าวกำลังขาดน้ำอย่างหนัก จึงหวังให้ส่วนราชการช่วยสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าไปในคลอง เพื่อตนและชาวนาในพื้นที่จะได้สูบน้ำต่อไปเลี้ยงต้นข้าวได้อย่างน้อย 15 วัน เพื่อข้าวจะได้รอดตาย และตนจะได้ไม่ต้องสูญเงินที่ลงทุนทำนาไปแล้วกว่า 30,000 บาท
