เชียงราย - ฝ่ายปกครอง-ทหารเฝ้าระวังชายแดนแม่ฟ้าหลวงเข้ม หลังพบ 4 สาวนั่งเครื่องสุวรรณภูมิ-เชียงรายมุ่งหน้าชายแดนตรงข้ามเขตอิทธิพลชนกลุ่มน้อยเพื่อนบ้าน คาดเตรียมไปท่าขี้เหล็กต่อ หลังสถานบันเทิง-กาสิโนเปิดบริการ
วันนี้ (6 มิ.ย. 64) ทหาร ร้อย.ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เฝ้าระวังการลักลอบเข้าออกเมืองโดยผิดกฎหมายบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง อย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
หลังจากนายนาขวัญ อนันชัย ปลัดอำเภอแม่ฟ้าหลวง นำสมาชิก อส.อ.แม่ฟ้าหลวงที่ 17 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนติดชายแดน พื้นที่หมู่บ้านลิเช หมู่ 9 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง
ต่อมาได้พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า BT 50 สีดำ ทะเบียนเชียงราย จึงเรียกหยุดตรวจ ภายในรถพบนายกันตชาติ ชาว ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นคนขับ โดยมีคนนั่งโดยสารไปด้วย 4 คนประกอบด้วย น.ส.พิมพา อายุ 25 ปี ชาว ต. หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมเพื่อนสาวชาว จ.ชลบุรี 1 คน จ.นครราชสีมา 1 คน และชาวเชียงราย 1 คน
สอบถามทราบว่าหญิงสาวทั้ง 4 คนเพิ่งเดินทางจาก จ.สมุทรปราการ ไปขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาลงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จากนั้นได้ว่าจ้างนายกันตชาติให้พาไปส่งที่หมู่บ้านลิเซ ชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าผู้ที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ ถือว่าเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ต้องได้รับการกักกันโรคในสถานที่กักกันโรคของรัฐเป็นเวลา 14 วัน หรือมีใบตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง หรือได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ครบ 2 เข็ม ตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย
ปรากฏว่าหญิงสาวคนอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนของ น.ส.พิมพา มีเอกสารแสดงให้เจ้าหน้าที่แต่ น.ส.พิมพาไม่มี เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาว่า "ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ที่ 40/2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เรื่อง กำหนดมาตรการปฏิบัติต่อผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงและเข้มงวด เข้าพื้นที่จังหวัดเชียงราย” และข้อหา “ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งศาลแขวง จ.เชียงราย ซึ่งศาลได้มีคำสั่งปรับผู้ต้องหา 5,000 บาท ถือเป็นผู้ที่ไม่มีภูมิลำเนาใน จ.เชียงราย รายแรกที่ถูกดำเนินคดีตามคำสั่ง จ.เชียงราย ดังกล่าว
ขณะที่ในทางสืบสวนทราบว่ากลุ่มหญิงสาวดังกล่าวอาจจะพยายามข้ามไปทำงานในฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เนื่องจากสถานบันเทิงและกาสิโนในเมืองท่าขี้เหล็กมีการเปิดบริการกันอย่างคึกคัก แต่เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมืองและฝ่ายต่างๆ ได้วางกำลังเข้มงวดตลอดแนวชายแดนโดยเฉพาะเขต อ.แม่สาย ที่อยู่ติดกับตัวเมืองท่าขี้เหล็ก จึงทำให้ผู้ลักลอบหันมาใช้ช่องทางที่ห่างไกลออกมาคือเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ดังกล่าวและฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านลิเซคือหมู่บ้านผาขาว เมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มมูเซอ แต่ก็มีเส้นทางเชื่อมไปยังตัวเมืองท่าขี้เหล็กได้
