มุกดาหาร - “ลุงพล” ผู้ต้องหาคดี “น้องชมพู่” ศาลจังหวัดมุกดาหารอนุญาตให้ประกันตัว 180,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐานพยานในคดี ด้านแม่น้องชมพูเผยต่อไปต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังกันมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดกรณี นายไชย์พล วิภา ผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูมนำตัวยื่นฝากขังต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร และทางนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว และบ่ายวันนี้ศาลได้พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวในมูลค่าหลักทรัพย์ 180,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขห้ามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือพยานบุคคล ห้ามออกนอกประเทศยกเว้นได้รับอนุญาตจากศาล
นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านกกตูม ต.กกตูม อ.ดงหลวง เป็นผู้กำกับดูแลผู้ต้องหาเพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด#หากผู้ต้องหาผิดข้อกำหนดเงื่อนไขศาลจะพิจารณาสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวหรือมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร
โดยนายษิทราหรือทนายตั้มได้เน้นย้ำต่อศาลถึงเหตุที่นายไชย์พลหรือลุงพลควรได้รับการประกันตัวเพราะมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
ขณะเดียวกัน ทางด้าน นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ภายหลังทราบว่านายไชย์พลได้รับอนุญาตประกันตัว ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนว่าหลังจากนี้ก็จะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติให้มากที่สุด แต่ต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้นเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทางครอบครัวบ้าง
สำหรับคดีนี้ นายไชย์พล หรือลุงพล ถูกศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2564 ใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1. พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา 2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้เด็กนั้นถึงแก่ความตาย 3. กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนชันสูตรเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
นายษิทรากล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหารให้ความเป็นธรรมแก่ลุงพล ตั้งแต่เช้าที่มายื่นเรื่องขอประกันตัว เจ้าพนักงานตำรวจกับแม่น้องชมพู่มาคัดค้าน และศาลมีการไต่สวนทางฝ่ายผู้คัดค้านมีพยานทั้งหมด 3 ปาก แม่น้องชมพู่ยอมรับว่าตั้งแต่แรกไม่สงสัยลุงพล และที่เขียนคำร้องได้รับการแนะนำตัวจากตำรวจ เขายอมรับในศาลแบบนี้ และไม่มีการข่มขู่กันมาก่อน ส่วนเจ้าพนักงานตำรวจ เขายอมรับว่าในวันที่ 2 ที่เราไปมอบตัวที่ สตช. เป็นการมอบตัว และก่อนหน้าที่จะออกหมายจับลุงพลไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนีมาก่อน แสดงว่าเจ้าพนักงานตำรวจไปขอออกหมายจับ โดยอ้างว่าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และหลบหนี ซึ่งเป็นความเท็จ
ตรงจุดนี้น่าจะมีการดำเนินการต่อไป เพราะว่าการไปยื่นคำร้องต่อศาล ถ้าเกิดไปยื่นที่มันไม่เป็นความจริง จริงๆ แล้วลุงพลไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทำให้ศาลหลงผิดในการออกหมายจับได้ คราวหน้าจะมาดำเนินคดีต่อตำรวจที่มาขอหมายจับในเรื่องของการละเมิดอำนาจศาล และดำเนินคดีอาญาต่อ และในวันอังคารจะชวนลุงพลป้าแต๋นไปพบกรรมาธิการ ไม่ใช่มีแค่ประเด็นออกหมายจับและการควบคุมตัวลุงพลที่ สตช. วันนั้น เรายืนยันมันคือการมอบตัว ตำรวจเอากุญแจมาล็อก ตาม ป.วิอาญา การจับกุมทำเท่าที่จำเป็น เรายินดีเข้าไปมอบตัวอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องดำเนินการต่อไป
ต่อคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า อยากพูดอะไรกับสังคม นายไชย์พลหรือลุงพลตอบว่า อันดับแรกขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหารที่ให้ความยุติธรรม และต่อไปก็จะพึ่งทนาย ก็ดีใจที่ได้ออกมาต่อสู้คดี เท่าที่ดูทางศาลจังหวัดมุกดาหารมีความยุติธรรมมาก และจะปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกอย่าง ผู้สื่อข่าวถามความรู้สึกว่าอยู่ดีๆ กลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าน้องชมพู่ ลุงพลบอกว่า เหมือนบทเพลงที่ผมร้อง (น้ำตาคลอ) ว่าเราถูกกล่าวหา ยังรักน้องชมพู่เหมือนเดิม ก็ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี