กาฬสินธุ์ - ผวากันทั้งบาง! พบผู้ป่วยโควิด-19 ใน จ.กาฬสินธุ์เพิ่มวันเดียว 5 ราย มีประวัติเดินทางกลับจากพื้นที่ระบาดและสัมผัสญาติกลับจากกรุงเทพฯ ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 118 ราย หายป่วยแล้ว 95 ราย กำลังรักษาอยู่ 19 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมรวม 4 ราย ขณะที่อำเภอสหัสขันธ์ตั้งจุดตรวจคัดกรองโรคเชิงรุกพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จ.กาฬสินธุ์ ได้รายงานสถานการณ์โรคในพื้นที่ โดยล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 5 ราย โดยมีผู้ป่วยสะสมรวม 118 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 95 ราย กำลังรักษาอยู่ 19 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 4 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ 5 รายล่าสุดอยู่ในพื้นที่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ 4 ราย มีประวัติเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสูงสุด กรุงเทพมหานคร และมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันที่ จ.สมุทรปราการ
ส่วนอีก 1 รายอยู่ในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ มีประวัติสัมผัสกับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 5 รายได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกาฬสินธุ์แล้ว
ขณะที่นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ นายสมบูรณ์ ไชยศรี สาธารณสุขอำเภอสหัสขันธ์ นพ.คมกฤษ วิเศษ ผอ.โรงพยาบาลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ นางอรวิภา แก้วยิ่ง ปลัดเทศบาลตำบลนิคม นำเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสหัสขันธ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และ อสม.ลงพื้นที่ตั้งจุดตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ที่บริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตราดดงเค็ง ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำจำนวนกว่า 200 คน หลังพบผู้ป่วยยืนยันรายที่ 118 ของ จ.กาฬสินธุ์ภายในหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีผู้ป่วยชายวัย 54 ปีรายที่ 118 ของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ที่เดินทางเข้ารับการรักษาแผลที่เท้าที่โรงพยาบาลสหัสขันธ์ โดยมีโรคประจำตัวโรคเกาต์ รูมาตอยด์ และเส้นเลือดตีบ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบสัมผัสกับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ก่อนเจ้าหน้าที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 นั้น ได้ส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์แล้ว
ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสหัสขันธ์ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วยได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อแล้วจำนวน 22 คน ซึ่งผลตรวจรอบแรกทั้งหมดไม่พบเชื้อ
แต่เพื่อเป็นการป้องกัน และเป็นไปตามมาตรการ และเพื่อความสบายใจทางโรงพยาบาลสหัสขันธ์ได้ให้ทั้ง 22 คนกักตัวสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน