กาฬสินธุ์ - ปศุสัตว์เมืองน้ำดำประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมประกาศเป็นเขตประสบพิบัติภัยโรคระบาดสัตว์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปีสกิน หลังพบโค กระบือป่วย และตายจำนวนมาก พร้อมฉีดวัคซีนทันทีหากได้รับการจัดสรร ย้ำเนื้อโคที่ผ่านโรงฆ่าสัตว์ปลอดภัย บริโภคได้ และโรคนี้ไม่ติดสู่คน
วันนี้ (31 พ.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายสุทิน กาญจนรัช ปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตัวแทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมกันเพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินในโค และกระบือ พร้อมร่วมกันหารือระเบียบในการประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติโรคระบาดสัตว์ และวางแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าว
นายสุทิน กาญจนรัช ปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคลัมปีสกินในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ขณะนี้พบการแพร่ระบาดทั้ง 18 อำเภอทั้งจังหวัด ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์-วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 มีสัตว์ป่วยสะสม 9,994 ตัว แบ่งเป็นโคเนื้อ 9,978 ตัว โคนม 6 ตัว กระบือ 10 ตัว สัตว์ตาย 338 ตัว เกษตรกรได้รับผลกระทบ 5,586 ราย และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการให้ปศุสัตว์แต่ละอำเภอลงพื้นที่สำรวจ และรายงานเข้ามา เพื่อที่จะสรุปข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้งโดยเฉพาะจำนวนสัตว์ที่ป่วยหรือเสียชีวิต
ในส่วนมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือ ชดเชย และเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือที่ได้รับผลกระทบ สัตว์ป่วยและตายนั้น เริ่มแรกได้ดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศให้เป็นเขตโรคระบาดในสัตว์ชนิดโรคลัมปีสกิน ประเภทโค กระบือ สั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ออกนอกหรือนำเข้ามาในจังหวัด ให้สัตว์อยู่กับที่ และเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม เนื่องจากตัวสัตว์เป็นพาหะนำโรค โดยมีสาเหตุจากแมลงต่างๆ ที่ดูดเลือด ทั้งเหลือบ เห็บ หมัด แมลงวันคอก
โดยเฉพาะยุงลายที่เป็นสาเหตุหลัก ควบคุมค่อนข้างยาก วิธีป้องกันตามหลักการแล้วจะต้องไม่ให้สัตว์ที่ป่วยเป็นโรคอยู่ร่วมกับสัตว์ปกติ ควรแยกออกจากกัน ใช้ยาทาตามตัว ซึ่งทางปศุสัตว์ได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกฉีดพ่นยาป้องกันไม่ให้แมลงหรือยุงกัดหลายพื้นที่แล้ว
นายสุทินระบุว่า ขณะนี้ทราบว่าทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับวัคซีนมาแล้ว 60,000 โดส แต่เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อเป็น สามารถก่อโรคได้หากใช้ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องรอให้ผ่าน อย.และรอคณะกรรมการการจัดสรรวัคซีนของกรมฯ หากผ่านกระบวนการขั้นตอนดังกล่าว และได้รับการจัดสรรแล้วก็สามารถฉีดช่วยเหลือเกษตรกรได้เลย คาดว่าน่าจะประมาณสัปดาห์หน้า นอกจากนี้รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการนำเข้าอีก 300,000 โดสเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำว่าสัตว์ที่เป็นโรคนี้ แม้ดูจากภายนอกแล้วจะน่ากลัว เพราะเป็นตุ่ม เป็นแผล ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาหาย เนื้อกินได้ และไม่ติดคน เป็นเฉพาะในโค กระบือเท่านั้น และที่สำคัญเนื้อโคทุกตัวที่จะเข้าโรงฆ่าสัตว์นั้นจะต้องได้รับการตรวจโรคและสุขภาพ เพราะฉะนั้นอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าเนื้อปลอดภัยบริโภคได้ และอยากฝากถึงพี่น้องเกษตรกรหากพบว่าโค กระบือของตัวเองเริ่มป่วย โดยมีอาการซึม ไม่ค่อยกินหญ้า ควรรีบแยกตัวออกจากฝูง หากเป็นไปได้ให้กางมุ้ง เพื่อที่จะไม่เป็นพาหะไปยังตัวอื่น และใช้ยาทาป้องกันทุกตัว