แม่ฮ่องสอน - สถานการณ์สู้รบริมสาละวินฝั่งเมียนมาตรงข้ามแม่ฮ่องสอนสงบหลายวัน ผู้หนีภัยทยอยกลับบ้านเหลืออยู่เพียง 255 คน ขณะที่ทหารราบที่ 7-ทหารพราน 36 ยังคงให้การช่วยเหลือต่อเนื่อง
นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ไม่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU ด้านตรงข้าม อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 64 เวลา 17.00 น.เป็นต้นมา และยังคงไม่มีการปฏิบัติการทางอากาศในฝั่งเมียนมาเป็นระยะเวลา 33 วัน จนถึงขณะนี้มีผู้หนีภัยชาวเมียนมาเดินทางกลับต่อเนื่อง
ล่าสุดผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวได้เดินทางกลับภูมิลำเนาอีก 363 คน ยังคงเหลืออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 4 แห่ง 255 คน ดังนี้ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บริเวณห้วยมะระ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 7 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บริเวณห้วยจอกลอ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 80 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บริเวณห้วยโกเกร๊ะ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 135 คน และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บริเวณบ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง 33 คน
โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการรักษาพยาบาลเบื้องต้น และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวทั้ง 4 แห่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือขั้นต้นตามหลักมนุษยธรรม
ทางด้านราษฎรไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ บ.ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบยังอยู่ในพื้นที่ตำบลรวบรวมพลเรือน 2 แห่ง 189 คน คือ พื้นที่ตำบลรวบรวมพลเรือนห้วยกองกูด ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง 168 คน พื้นที่ตำบลรวบรวมพลเรือนห้วยกองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง 21 คน
ขณะเดียวกัน จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดตลอดแนวชายแดนทั้ง 7 อำเภอป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ยาเสพติด และป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เน้นย้ำทั้งการวางกำลังตรวจสอบทั้งทางอากาศ ทางบก และช่องทางธรรมชาติทุกแห่ง หลังมีรายงานกระแสข่าวความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านเกิดขึ้นหลายพื้นที่