xs
xsm
sm
md
lg

โควิด-19 ระบาดนาน! โปรกอล์ฟดังต้องวางไม้ หันทำฟาร์มเห็ดออแกนิก-ปั้นวิสาหกิจชุมชน เล็งส่งขึ้นห้างต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - วิกฤตโควิด-19 ระบาดซ้ำหลายระลอก แถมยาวนานจนโปรกอล์ฟชื่อดังระดับกรรมการ All Thailand Golf Tour-เอเชียนทัวร์ยังต้องวางไม้ หันทำฟาร์มเห็ดออแกนิกเก็บขายทั่วพิษณุโลก เล็งเปิดรับลูกฟาร์มร่วมปั้นวิสาหกิจชุมชนส่งห้างต่อ


ปัญหาไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่แพร่ระบาดลุกลามทั่วโลกหลายระลอกและยาวนาน โปรอ้วน-นายนิทัศน์ ขันกสิกรรม โปรกอล์ฟชื่อดัง ซึ่งได้รับผลกระทบไม่สามารถเดินทางได้เหมือนเดิม ได้หันมาลงทุนฟาร์มเห็ดเกษตรวิริยะ เลขที่ 304/1 หมู่ 3 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก จนกลายเป็นฟาร์มเห็ดครบวงจรและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง

โปรอ้วน-นายนิทัศน์ เปิดเผยว่า ตนเป็นโปรกอล์ฟ เคยเป็นผู้ตัดสิน All Thailand Golf Tour และทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างเอเชียนทัวร์ เดินทางไปหลายประเทศ จนกระทั่งเกิดการระบาดของโควิด-19 ประเทศเริ่มปิด ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้

ประกอบกับรู้สึกว่าวันนี้ชีวิตได้เดินทางมาถึงจุดอิ่มตัว อยากอยู่กับที่ อยากอยู่กับครอบครัวแล้ว ไม่อยากเดินทาง จึงเริ่มคิดว่าจะทำอะไรให้มีรายได้และสามารถอยู่ดูแลครอบครัวได้เพื่อชดเชยเวลาที่เคยเสียไป จึงลงทุนเรียนคอร์สฟาร์มเห็ดกับ อ.สิงห์โต Korat Mushroom Farm ได้ฝึกงานมีโอกาสเรียนรู้พูดคุยเกี่ยวกับระบบฟาร์มเห็ดที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุดอย่างระบบ SCM

หลังจากนั้นจึงเริ่มลงมือปรับสถานที่ต่างๆ ภายในบ้านซึ่งเป็นโรงสีมาก่อนให้เป็นโรงเรือนพื้นที่ประมาณ 5x12 เมตร จำนวน 4 โรง เป็นฟาร์มเห็ดระบบปิดมีตัวควบคุมอุณหภูมิ ให้ความชื้นตามระบบของ SCM ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือได้


“เริ่มทำฟาร์มเห็ดจากหัวเชื้อเห็ดนางรมเทา เห็ดนางรมดำ รวม 1,500 ก้อน ให้ผลผลิตตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 64 ที่ผ่านมา ส่งขายตามท้องตลาดทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือในท้องตลาดเขาทำก้อนเชื้อจากก้อนขี้เลื่อย แต่ฟาร์มของตนใช้ฟางข้าวที่หาได้จากท้องถิ่น”

โปรอ้วนบอกว่า เหตุที่เลือกทำฟาร์มเห็ดนางรมเทา เห็ดนางรมดำ เพราะเห็ดประเภทนี้มีลักษณะพิเศษคือ ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทนร้อนได้ดี โดยเฉพาะวิธีการเพาะเห็ดจากฟางข้าวจะทำให้ได้รสชาติเห็ดแตกต่างจากก้อนเห็ดขี้เลื่อย คือจะมีความหนึบหนับ เด้งมากกว่ากัน รสชาติจะหวานกรอบกว่า

ส่วนขั้นตอนการทำ คือ นำฟางข้าวมาล้างทำความสะอาดและทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อกำจัดสารเคมีที่ตกค้าง กำจัดเศษดิน สิ่งสกปรกทั้งหลายที่ติดอยู่กับฟางข้าว ที่สำคัญคือเป็นขั้นตอนกระตุ้นการเกิดของไข่ไรที่มีอยู่ในฟางข้าวอยู่แล้วด้วย พอไข่ไรได้รับการกระตุ้นก็จะกลายเป็นตัวอ่อน ซึ่งพอเป็นตัวอ่อนแล้วเราจะสามารถกำจัดเขาได้ง่ายที่สุด

เมื่อล้างฟางข้าวทิ้งไว้หนึ่งคืนแล้ว เช้ามาจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตด้วยการนำฟางไปปั่น ผ่านเทคโนโลยีของไทยเราเอง คือการนำฟางก้อนใหญ่ๆ ไปปั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็นำฟางที่ย่อยแล้วมาอัดในถุงบรรจุหัวเชื้อของเราที่ผลิตจากเมล็ดข้าวโพดสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ จากนั้นก็โรยเชื้อเป็นชั้นๆ น้ำหนักก้อนละประมาณ 5-6 กิโลกรัม

หลังจากบรรจุเป็นก้อนเรียบร้อยแล้วก็จะนำไปไว้ในโรงบ่ม ซึ่งก้อนเห็ดจะคายก๊าซในตัวออกมา จากนั้นก็นำเข้าห้องเปิดดอก ประมาณ 20-25 วันจะสังเกตเห็นได้ว่าก้อนเห็ดจะเริ่มเดินเป็นเส้นสีขาวๆ จากนั้นก็เริ่มกรีดเปิดดอกให้ก้อนเห็ด จากวันที่เขาเริ่มมีตาดอกแล้ว นับไปอีก 3 วันจะสามารถเก็บผลผลิตได้เลย โดยวันหนึ่งจะสามารถเก็บผลผลิตได้ถึง 3 ครั้ง คือ เช้า 1 รอบ บ่าย 1 รอบ และหลังพระอาทิตย์ตกได้อีก 1 รอบ อุณหภูมิภายในโรงเห็ดจะรู้สึกได้ว่าเหมือนอยู่ในเมืองหมอก หากทำอุณหภูมิได้ต่ำมากเท่าใด เห็ดก็จะยิ่งโตไว ยิ่งหวาน ยิ่งกรอบ เห็ดของตนเก็บผลผลิตได้ทุกวัน


และหลังจากที่เราเก็บเห็ดมาได้แล้วก็จะนำมาตัดแต่ง ตัดเศษฟาง หรือเห็ดต้นเล็กออก จากนั้นก็ส่งขายตามตลาดในตัวเมืองพิษณุโลก ราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท ส่วนเห็ดดอกเล็กที่ตัดออกมาจะนำมาแปรรูปเป็นแหนมเห็ด จำหน่ายได้อีกในราคาก้อนละ 10 บาท (หนัก 50 กรัม) 1 แพกจะมีแหนมเห็ด 5 ก้อน ราคา 50 บาท และทำเป็นน้ำพริกเห็ด ราคากระปุกละ 35 บาท (หนัก 100 กรัม) หรือ 3 กระปุก 100 บาท ต้องบอกได้เลยว่าแหนมเห็ดและน้ำพริกเห็ดขายดี ผลิตแทบไม่ทัน

“ก้อนเห็ด 1 ก้อนจะสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 1.5-2 กิโลกรัมต่อรอบการผลิต คือ 45-60 วัน จากนั้นจะทำการปลดระวางหัวเชื้อก้อนเห็ด ซึ่งหัวเชื้อก้อนเห็ดที่ปลดระวางแล้วสามารถนำไปขายให้ผู้เลี้ยงปลานิล ปลาทับทิมได้ เพราะในก้อนเชื้อจะมีโปรตีนสูงช่วยให้ปลาโตเร็ว”

สำหรับการดูแลรักษาความสะอาดในโรงเปิดดอก ต้องระวังมากที่สุดคือในเรื่องของมดและแมลง เราต้องกำจัดออกให้หมด ล้างพื้นให้สะอาด ใช้น้ำฉีดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ซึ่งทางฟาร์มเห็ดของตนจะไม่ใช้สารเคมีกำจัดแมลง แต่จะใช้วิธีเทนมเปรี้ยวใส่ถ้วยแล้วนำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ภายในโรงเปิดดอก และใช้ใบตองทาด้วยน้ำมันห้อยไว้เป็นจุดเพื่อดักแมลงตัวเล็กต่างๆ


โปรอ้วน บอกด้วยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนทำเป็นอุตสาหกรรม เพราะสามารถผลิตได้เองทุกขั้นตอน จากนั้นจะเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ และเปิดรับลูกฟาร์มที่ต้องการเพาะเห็ด ตนจะคอยดูแล คอยแนะนำ และรับซื้อผลผลิตด้วย เพราะอนาคตจะนำเห็ดเกษตรวิริยะขึ้นจำหน่ายบนห้างสรรพสินค้าอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้วิธีการเพาะเห็ดนางรมเทา เห็ดนางรมดำ หรืออยากอุดหนุนผลิตภัณฑ์ทั้งเห็ดสด แหนมเห็ด และน้ำพริกเห็ด สามารถติดต่อได้ที่หน้าฟาร์มเห็ดเกษตรวิริยะ ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น