กาญจนบุรี - เผยเส้นทางการขนแรงงานเถื่อน “ไอ้ฮาซิม” หัวหน้าขบวนการขนแรงงานเถื่อน มีเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 1 ล้านบาท สารภาพทำมาแล้วกว่า 3 ปี ขนอาทิตย์ละ 3 ครั้งๆ ละ 10-20 คน ค่าหัวละ 5,000 บาท หลังจากโควิด-19 ระบาดได้เพิ่มหัวละ 7,000-8,000 บาท ทำให้เงินสะพัดมากช่วงโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ประสาน รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า และ ผบ.ร้อย ตชด.135 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกันจับกุมตัวนายฮาซิม จิรกิจบำรุงกุล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/ซ หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่ จ.43/2564 ลงวันที่ 22 พ.ค.64 ในความผิดฐาน “ใช้ จ้าง วาน หรือร่วมกันช่วยเหลือ หรือให้การช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ในเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 25 พ.ค.64 ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายฮาซิม ไปตรวจค้นบ้านพักที่ หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ผลการตรวจค้นพบหลักฐานเพื่อนำมาประกอบสำนวนในคดี จำนวน 9 รายการ ประกอบด้วย ซิมโทรศัพท์มือถือ 2 ซิม กล่องโทรศัพท์มือถือที่มีเลขอีมี่ติดอยู่ 1 กล่อง สมุดบัญชีเงินฝาก มีเงินหมุนเวียนในบัญชีตั้งแต่ 5,000-1,000,000 บาท 1 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝาก มีเงินหมุนเวียนตั้งแต่ 7,000-200,000 บาท อีก จำนวน 1 เล่ม ทั้ง 2 เล่มอยู่ระหว่างการตรวจสอบยอดคงเหลือในบัญชี รวมทั้งตรวจต้นทางและปลายทางการโอนเงิน
สมุดคู่มือจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขธฉ 908 กาญจนบุรี จำนวน 1 เล่ม สมุดคู่มือจดทะเบียนรถบรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บล 7256 กาญจนบุรี จำนวน 1 เล่ม หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ เลขทะเบียน 10-2206 กาญจนบุรี จำนวน 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป้ สีดำ 1 เครื่อง
ทั้งนี้ นายฮาซิม จิรกิจบำรุงกุล ให้การยอมรับสารภาพว่า เช้าวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ใช้ให้ นายอ่องโซ ไม่มีชื่อสกุล ขับรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บล 7256 กาญจนบุรี ไปส่งให้ นายเกรียงศักดิ์ หรือตุ้ย จรรยา ที่บ้านของนายเกรียงศักดิ์ ที่อยู่ในหมู่บ้านบ้านองธิ หมู่ 2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เพื่อให้นายเกรียงศักดิ์ ขับรถไปรับแรงงานต่างด้าวชาวพม่า จำนวน 19 คน ไปส่งที่ จ.กาญจนบุรี โดยจะให้ค่าจ้างเป็นเงิน 2,000 บาท
ต่อมา ในวันที่ 19 พ.ค.64 ตนทราบข่าวว่านายเกรียงศักดิ์ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวพร้อมแรงงานจำนวนดังกล่าว ตนจึงเกรงว่าจะถูกติดตามจับกุมไปด้วยจึงนำซิมเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อกับนายเกรียงศักดิ์ ไปทิ้งลงในแม่น้ำซองกาเรีย แล้วนำซิมโทรศัพท์ที่เป็นเบอร์ใหม่มาใช้กับโทรศัพท์เครื่องเดิม
โดยที่ผ่านมา ตนทำงานขนแรงงานต่างด้าวมาแล้วเป็นเวลากว่า 3 ปี โดยใน 1 สัปดาห์จะขนแรงงาน 1-3 ครั้งๆ ละประมาณ 10-20 คน โดยจะขนแรงงานจากชายแดนอำเภอสังขละบุรี ไปส่งตามจุดนัดหมายในพื้นที่ตัวอำเภอเมืองกาญจนบุรี แล้วจะมีคนมารับแรงงานอีกทอดหนึ่ง ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนจะได้ค่าจ้างหัวละประมาณ 4,000-5,000 บาท แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การขนแรงงานต่างด้าวเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการกวดขันเพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวอย่างเข้มข้น
ทำให้การขนแรงงานแต่ละครั้งมีความเสี่ยงต่อการถูกจับกุมมากยิ่งขึ้น จึงได้ค่าจ้างในการขนแรงงานเพิ่มขึ้นหัวละ 7,000-8,000 บาท โดยส่วนใหญ่ตนเองจะขับรถยนต์ไปรับแรงงานที่บริเวณลานที่อยู่ตรงข้ามกับหมวดการทางสังขละบุรี ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี และจะนำไปส่งที่ จ.กาญจนบุรี ด้วยตนเอง แต่สุดท้ายนายเกรียงศักดิ์ หรือตุ้ย จรรยา ผู้ต้องหาที่ตนจ้างให้ขนแรงงานซัดทอดมาถึงจนถูกออกหมายจับและถูกจับกุมตัวได้ นายฮาซิม เผย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำรับสารภาพพบว่านายฮาซิม เป็นหัวหน้าขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า รายใหญ่รายหนึ่งของอำเภอสังขละบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี จากค่าหัวที่ได้ข้างต้นก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้นายฮาซิม มีเงินหมุนเวียนอยู่ที่อาทิตย์ละ 300,000 บาท หรือเดือนละประมาณ 1,200,000 บาท หรือปีละ 14,000,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนช่วงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นายฮาซิม มีเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว