ตาก - เปิดใจตำรวจวังเจ้า พร้อมภรรยาใจเด็ด..หนึ่งถือปืนลูกซอง อีกหนึ่งถือกระบองกับถ่ายคลิป จับแรงงานพม่าดวงซวย จ่ายค่านายหน้าหัวละหมื่น ลอบข้ามน้ำเมยเดินเลาะดอย 2 วัน 2 คืน พอได้ขึ้นรถขบวนการค้าแรงงานกลับพาจอดหน้าบ้าน ตร.เฉย
ร.ต.ต.กัญจน์ รอดมา รอง สว.สส.สภ.วังเจ้า จ.ตาก เปิดเผยถึงนาทีร่วมกับภรรยาที่ถือไม้กระบอง พร้อมใช้มือถือถ่ายคลิป ขณะเข้าจับกุมแรงงานชาวเมียนมาเต็มคันรถ ที่มาจอดซุ่มอยู่ในป่าละเมาะใกล้ๆกับบ้านพักของตัวเอง บริเวณหลังปั๊มน้ำมันบางจาก ม.2 บ้านคลองเชียงทอง ต.ประดาง อ.วังเจ้า จ.ตาก เมื่อ 2 วันก่อน
ร.ต.ต.กัญจน์ เล่าว่า ที่ผ่านมา มีรายงานขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานตางด้าวเข้ามาในพื้นที่ ตนซึ่งเป็นตำรวจ ก็ออกติดตามหาข่าวอยู่เป็นประจำ กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ค.ขณะตนและภรรยากำลังเดินทางออกจากบ้านพักที่อยู่ด้านหลังปั๊ม เพื่อจะไปตลาดซื้อกับข้าวมากิน บังเอิญสังเกตเห็นรถยนต์คันดังกล่าวจอดซุกอยู่ในป่าละเมาะ โดยไม่รู้ว่าที่จอดอยู่นั้น คือทางเข้าบ้านของตำรวจ
และด้วยสัญชาตญาณตำรวจสังเกตเห็นรถกระบะดังกล่าวจอดหันหน้าเข้าไปในป่า ประกอบกับไม่เคยเห็นรถกระบะคันนี้มาก่อน รวมทั้งเห็นว่ามีชายแปลกหน้าเดินป้วนเปี้ยนไปมารอบรถ จึงหันไปถามภรรยา คือ นางญาณินท์ รอดมา ว่าเคยเห็นรถคันนี้หรือไม่ และภรรยาบอกไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน
จากนั้นจึงตัดสินใจจอดรถแล้วเดินลงจากรถ แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้รถต้องสงสัยก็รู้สึกผิดปกติ จึงเดินกลับมาที่รถกระบะพร้อมหยิบอาวุธปืนประจำกาย ซึ่งเป็นปืนลูกซองขึ้นมาถือไว้ก่อนเข้าไปตรวจสอบ ขณะเดียวกันภรรยาคู่ชีวิตก็ใช้มือถือถ่ายคลิปวีดิโอ โดยมืออีกข้างถือไม้กระบองไว้ป้องกันตัว
ระหว่างนั้น ก็ได้รายงานผ็บังคับบัญชาทราบ พร้อมขอกำลังสนับสนุนจาก สภ.วังเจ้า เพื่อเข้าควบคุมตัวไปดำเนินคดี โดย พ.ต.อ.ณัฐพล บุบผะศิริ ผกก.สภ.วังเจ้า และ พ.ต.ท.ณรงค์ คำทราย รอง ผกก.ป.สภ.วังเจ้า ได้รีบสั่งการให้ พ.ต.ท. ศรายุ ดีมั่น สวป.สภ.วังเจ้า นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสนับสนุนทันที
จากการตรวจสอบรถกระบะโตโยต้า สีดำ ติดแครี่บอยกระจกทึบ หมายเลขทะเบียน ฒส 1358 กรุงเทพมหานคร จอดหันหน้าซุกเข้าไปในพุ่มไม้ พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 18 คน เป็นหญิง 8 คน ชาย 10 คน และยังสามารถควบคุมตัวนายอนุชา แซ่กือ อายุ 22 ปี คนขับรถกระบะ พร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการคือชาย 2 คน มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์นำหน้ารถกระบะเพื่อดูต้นทาง ทราบชื่อคือ นายพงษ์เทพ อายุ 25 ปี คนขี่ จยย. และ นายประสิทธิ์ อายุ 19 ปี คนซ้อนมอเตอร์ไซค์ ที่มีหน้าที่ดูต้นทาง ขณะกำลังนั่งอยู่ในศาลาข้างทาง พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha r15 150 cc สีดำหมายเลขทะเบียน 1กญ 1551 ตาก
ด้านแรงงานชาวเมียนมา เป็นชายอายุ 40 ปีคนหนึ่ง ซึ่งสามารถพูดและฟังภาษาไทยรู้เรื่องให้การว่า เคยทำงานอาชีพรับเหมาก่อสร้างและก่อนหน้านี้เคยอยู่เมืองไทยมาแล้วนานกว่า 2 ปี กระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรกจึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่เมียนมา
แต่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศเมียนมา รวมถึงปัญหาโควิดระบาด ทำให้ตนเองและเพื่อนๆ ตัดสินใจเดินทางเข้าประเทศไทยโดยจ่ายค่าหัวให้นายหน้าคนละ 10,000 บาท จากนั้นได้เดินทางข้ามแม่น้ำเมยลัดเลาะมาตามช่องทางธรรมชาติยอมอดข้าวอดน้ำเดินทางกว่า 2 วัน 2 คืน ก่อนจะได้ขึ้นรถที่นายหน้าจัดหามาให้แล้วรถกระบะก็นำพาลัดเลาะตามหัวไร่ปลายนาของชาวบ้านจนมาถูกจับได้ในที่สุด
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชาวไทยทั้ง 3 ราย ส่วนแรงงานต่างชาติชาวเมียนมาจะได้ดำเนินการผลักดันกับประเทศต่อไป