ประจวบคีรีขันธ์ - ฉก.จงอางศึกรวบ 50 แรงงานพม่าลักลอบข้ามแดนใกล้ช่องวังเป้า ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ เผยอยู่ในเครือข่าย "มิมิแง" นายทุนหม่องมหาชัยส่งออเดอร์ตามใบสั่งโรงงานปลาประป๋อง
วันนี้ (13 พ.ค.) จ้าหน้าที่ทหาร ชุดเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตำรวจ สภ.อ่าวน้อย อ.เมือง เจ้าหน้าที่ ตชด.146 ด่านสิงขร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ ชรบ. เจ้าหน้าที่ อส.สนธิกำลังติดตามจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองบริเวณช่องทางธรรมชาติทางทิศเหนือของช่องวังเป้า หมู่ 12 บ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย
ในที่เกิดเหตุใกล้แนวสันเขา พบแรงงานชาวพม่าจำนวนมาก พร้อมสัมภาระเดินลัดเลาะแนวป่าเพื่อไปยังจุดนัดหมายที่เป็นถนนลูกรัง เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดล้อม จากนั้นได้ควบคุมตัวแรงงานชาวพม่า แยกเป็นชาย 31 คน หญิง 19 คน พร้อมตรวจคัดกรองไม่พบผู้มีความเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด-19 จึงควบคุมไปกักตัวไว้ 14 วัน ที่สนามหน้ากองร้อย ตชด.ที่ 146 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอนสวน สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งเดินทางมาจากเมืองย่างกุ้งและเมาะลำไย ประเทศพม่า โดยมีนายหน้าที่ติดต่อให้ไปทำงานในโรงงานปลากระป๋องแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร บางส่วนไปทำงานในโรงงานที่ อ.หัวหิน กทม. สุราษฎร์ธานี และกระบี่ ทั้งหมดจึงเดินทางมาพักที่บ้านพักใกล้หอนาฬิกา บ้านมูด่อง ห่างจากชายแดนด่านสิงขร 3 กิโลเมตร ต่อมาได้เดินทางข้ามสันเขาใช้เวลา 2 วัน 2 คืนถึงช่องทางธรรมชาติวังเป้าเพื่อเข้าประเทศไทย โดยนายทุนฝั่งพม่าได้โทรศัพท์นัดหมายให้ผู้ร่วมขบวนการชาวไทยนำรถยนต์ไปรับเพื่อส่งที่โรงงานเป้าหมาย
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงชายแดนไทย-พม่า ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการจับกุมแรงงานพม่าหลบหนีเข้าเมืองหลายครั้ง มีการผลักดันกลับประเทศพม่าผ่านช่องทางธรรมชาติ ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ขณะที่การจับกุมแรงงานเถื่อน 50 คน ยังไม่มีข้อมูลการซัดทอดถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อกวาดล้างขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ แต่ทางการข่าวชายแดนทราบว่าแรงงานทั้งหมดเป็นของนายทุนเป็นชาวพม่าที่มีฉายาในวงการค้าแรงงานเถื่อนว่า "มิมิแง" พักอาศัยที่ จ.สมุทรสาคร โดยมีแก๊งคนมีสีหลายหน่วยงานให้ความคุ้มครอง หากแรงงานเถื่อนไปถึงเป้าหมาย นายทุนโรงงานจะจ่ายเงินให้ค่านายหน้าแก๊งค้าแรงงาน โดยหักจากค่าแรงรายวันต่อหัววันละ 50 บาท ตลอดระยะเวลาการทำงาน ซึ่งถือว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์
สำหรับ “มิมิแง” เป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน เป็นผู้กว้างขวางใน อ.ตะนาวศรี จ.มะริด มีความสนิทสนมกับอดีตข้าราชการระดับสูงรายหนึ่งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีความเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่บางรายในสำนักงานจัดหางานของรัฐ เพื่อรับใบสั่งแรงงานเถื่อนจากโรงงานในพื้นที่ ทำให้การจับกุมในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถสาวถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังเพื่อตัดต้นตอ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า การจับกุมล่าสุดเจ้าหน้าที่บางหน่วยพยายามตัดตอน รีบนำผู้ต้องหาไปกักตัว โดยไม่วางแผนด้วยการรอให้รถของนายทุนไปรับในจุดนัดหมายก่อน แล้วทำการจับกุมในภายหลัง และคาดว่าหลังมีการนำผู้ต้องหาไปกักตัว จะทำให้แรงงานเถื่อนอีก 300 คนที่พักรอที่บ้านมูด่อง มีเป้าหมายลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ ต.ห้วยทราย ต.คลองวาฬ และ ต.อ่าวน้อย อย่างต่อเนื่อง แหล่งข่าวระบุ