นครปฐม - หนุ่มหัวร้อน ฉายา “ต่ายปาโมก 2” ท้าทายผลักอก พร้อมกับด่าตำรวจนครปฐม สุดท้ายยอมรับเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เหตุอากาศร้อนจัด ถูกส่งฟ้องศาลตัดสินแล้วเมื่อช่วงบ่าย ด้านแม่บอกลูกชายเคยเสพยา ครอบครัวแตกแยก เคยบวชแล้วไม่สึกตามประเพณี จึงเพี้ยน ขอโทษตำรวจและสังคม
จากกรณีมีคลิปชายกลางคนมีปากเสียงผลักอกตำรวจนครปฐม ก่อนโดนกดรวบสงบสติอารมณ์ เป็นคลิบปดังที่ชาวเน็ตให้ความสนใจและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของวันนี้ (19 พ.ค.) โดยในคลิปมีการระบุชื่อชายคนดังกล่าวคือ “ต่าย ป่าโมก 2”
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่ สภ.เมืองนครปฐม ทราบว่า คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.เมืองนครปฐม จริง ซึ่งได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ธีรเชษฐ์ ธนวินรวีร์ ผู้กำกับการตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม โดยได้ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์แจ้งว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวและมีการดำเนินการด้านคดีความไปจนเสร็จสิ้นแล้วโดยเป็นการปฏิบัติหน้าที่การตรวจพื้นที่ตามปกติ เรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่การส่งฟ้องศาลไปแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ของวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งชายคนที่ปรากฏในภาพ คือ นายสมิง สงวนพันธุ์ อายุ 31 ปี หรือบอย โดยช่วงเกิดเหตุได้นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีขาวน้ำเงิน อยู่ที่ปากทาง บริเวณสะพาน 1 ถนนพระประโทน-บ้านแพ้ว ม.3 ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาขอตรวจเอกสาร แต่เกิดความไม่พอใจและมีปากเสียงกัน ก่อนจะเดินรุกไล่กันมาประมาณ 200 เมตร และมีการผลักอกเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ต.ปริตรกร และ ด.ต.เสฎฐวุฒิ โดยมีพฤติกรรมทั้งจะหยิบไม้ ทำท่าจะเข้าทำร้าย รวมถึงให้ของลับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างๆ นานา ตามที่ปารากฏในคลิป
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายเผด็จ แสนสวาท อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 ม.3 ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนั้น ช่วงแรกเห็นนายสมิง หรือบอย ได้นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ของตัวเองที่หน้าปากซอย จากนั้นได้ยินเสียงตะโกนด่ากันจึงได้เดินชะโงกออกไปมอง และเห็นมีการท้าทายด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด แต่เจ้าหน้าที่ก็เดินรุกไล่มาตลอดจนถึงหน้าบ้านตน ซึ่งนายบอย ได้มีการผลักอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะรวบตัวกันตามคลิป ซึ่งทางตำรวจไม่ได้ทำร้ายอะไ รและแสดงท่าทีที่ใจเย็นมากๆ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังห้องพักเลขที่ 75/11 ม.3 ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม โดยเจอนายสมิง หรือบอย โดนได้เดินมาด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย และยิ้มแย้ม พร้อมบอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดรอรับแม่กลับบ้านที่ปากทาง จู่ๆ ก็มีตำรวจมาถามหลายเรื่องก่อนจะถามถึงใบสีชมพู ซึ่งตนเองก็งงว่าคือใบอะไร ช่วงที่สอบถามอากาศร้อนจัด และมีเสียงพูดของตำรวจ 2 คนที่ถามสลับกันไปมาจนทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบคุมสติไม่อยู่
จากนั้นได้ถูกควบคุมตัวไปโรงพักก็ใจเย็นลงแล้ว ส่วนตัวไม่ได้ติดใจเจ้าหน้าที่ตำรวจและคิดว่าตนเองไม่ได้ผิดอะไร จึงได้เถียงออกไป และยอมรับว่าเสพบ้ามา เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ก่อนที่จะเกิดเรื่อง 1 วัน
นายสมิง หรือบอย กล่าวว่า วันนี้ตนเองได้เข้าไปรับฟังคำพิพากษาจากศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องตนเอง และศาลแขวงนครปฐมได้พิพากษาฐานเสพยาเสพติด จำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ปรับ 5,000 บาท ฐานต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ปรับ 5,000 บาท จำคุก 3 เดือน รวมปรับ 15,000 บาท โทษจำคุก 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี รายงานตัว 4 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง โดยจำเลยไม่มีเงินชำระค่าปรับได้ยื่นขอทำงานบริการสังคมแทน ซึ่งตนเองดีใจที่ศาลปราณนี และตอนนี้รู้สึกผิดแต่แก้ปัญหาไม่ได้แล้วเพราะมันเกิดขึ้นแล้ว แต่ขอโทษแม่ที่ทำเรื่องให้ไม่สบายใจ และจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก
ด้านนางสะอิ้ง เปาปราโมทย์ อายุ 53 ปี มารดา บอกว่าขณะที่เกิดเรื่องไม่รู้เรื่องเพิ่งมาทราบตอนหลังที่ถูกจับไปแล้ว โดยเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ลูกชายประสาทไม่ค่อยดี เนื่องจากเคยเสพยามาก่อนและมีปัญหาครอบครัวคือแยกย้ายกับภรรยา และเคยบวชแต่ไม่ได้สึกตามหลักการ ทำให้มีอาการคุ้มดีคุ้มร้ายบ่อยๆ ตนเองต้องขอโทษตำรวจและสังคมด้วยที่ลูกชายไปทำแบบนี้
ซึ่งหลังจากมีการพูดคุยช่วงสุดท้าย นายบอย ได้ก้มลงกราบที่หน้าตักของนางสะอิ้ง และกล่าวคำขอโทษ โดยมารดาได้สั่งสอนและให้สติลูกชายหลังเพิ่งไปรับฟังคำพิพากษาเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา