พิษณุโลก - ชาวประโดก-กรมธรรม์ เมืองสองแคว ขึ้นป้ายประท้วง “เฮา บ่ เอาถนน” ต้านทางหลวงชนบทขีดเส้นเวนคืนจุดตัดถนนเลี่ยงเมืองสายใหม่รัศมีกว้างเกือบกิโลฯ ล่าสุด ส.ส.เพื่อไทย- ผอ.แขวงฯ โร่เจรจารับปากช่วยเหลือ
ขณะนี้ ชาวบ้านประโดก-กรมธรรม์ ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก ที่อยู่ในแนวเวนคืนที่ดินทำกิน-บ้านที่อยู่อาศัย ต่างพากันขึ้นป้ายประท้วง “เฮาบ่ เอาถนน” ติดไว้หน้าบ้าน ไม่ยอมรับการเวนคืนที่ดิน เพราะถนนเส้นใหม่สาย ฉ2 ไปตัดผ่านกลางหมู่บ้าน ซึ่งมีบ้านเรือนของประชาชนปลูกสร้างอยู่อย่างหนาแน่น และที่สำคัญบริเวณจุดตัดกับถนนทางหลวงหมายเลข 11 กรมทางหลวงชนบท กำหนดแนวเวนคืนที่ดินจากถนน 30 เมตร เป็น 800 เมตร
ชาวบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้ขัดขวางความเจริญหรือการพัฒนาเมืองของ จ.พิษณุโลก แต่ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างโปร่งใสชัดเจน เนื่องจากเวนคืนที่ดินกันไว้สร้างถนนมากเกินไป ทำให้คนประโดก-กรมธรรม์ที่อยู่อาศัยบนที่ดินบรรพบุรุษสืบต่อกันมา เดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 67 หลังคาเรือน
ส่วนตามแปลนแนวสร้างถนนกว้าง 30 เมตร แต่ชาวบ้านลงมือวัดพบว่ากว้างเกือบ 60 เมตร ซึ่งไม่ตรงกันกับข้อเท็จจริง ชาวบ้านจึงอยากทบทวนและขอปรับแก้ไขแนวถนนใหม่ โดยเลี่ยงหรือเบี่ยงเส้นทางที่ไม่ตัดผ่านกลางหมู่บ้าน และให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโครงการจัดทำประชาคมขึ้นใหม่ โดยให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริง
นายทึม ปะระไทย อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242 หมู่ 8 ต.สมอแข 1 ในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ตนอยู่บนที่ดินของบรรพบุรุษมาหลายชั่วอายุคน สร้างบ้านอยู่กันกับครอบครัวลูกๆรวม 4 หลัง ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนว่าจะถูกเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างถนนสาย ฉ2 กระทั่งมีหนังสือของทางราชการส่งมาให้ที่บ้าน ปรากฏว่า ถูกเวนคืนทั้งหมดเหลือเนื้อที่เพียงแค่ประมาณ 1 ศอก เท่านั้น
“วันนี้ทุกคนเครียดมาก เพราะไม่รู้ว่าจะต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่ไหน ส่วนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ก็เจอชะตากรรมแบบเดียวกัน บางครอบครัวมีผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่ ก็ได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ในครั้งนี้ด้วย เพราะรู้สึกว่าชาวบ้านต่างไม่ได้รับความเป็นธรรมในการถูกเวนคืนสร้างถนนสาย ฉ2”
ด้าน นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก เขต 2 พรรคเพื่อไทย ที่นั่งรถวีลแชร์ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่จริงหลังรับเรื่องราวร้องทุกข์ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกไปก่อนหน้านี้ และมีตัวแทนชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน พื้นที่ หมู่ 3 และ หมู่ 8 บ้านกรมธรรม์-ดงประโดก ต.สมอแข กว่า 30 คน ถือป้ายขอความธรรม บอกว่า พอลงพื้นที่จริงพบว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการถูกเวนคืนสร้างถนนสาย ฉ2 เช่น มีคนป่วยติดเตียง คนสูงอายุ ฯลฯ
ซึ่งจะนำเรื่องทั้งหมดยื่นต่อคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม คณะกรรมาธิการการคมนาคม และคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะหยิบยก เรื่องปัญหาการเวนคืนสร้างถนนเข้าสภา อีกด้วย
นายกล้าหาญ ทารักษา ผู้อำนวยการ (รักษาการ) แขวงทางหลวงชนบทพิษณุโลก เปิดเผยถึงโครงการตัดถนนเลี่ยงเมืองพิษณุโลก สาย ฉ.2 ที่ถูกชาวบ้านคัดค้านว่า ตนเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งใหม่ จึงได้ลงพื้นที่พูดคุย ถกปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน พร้อมสำรวจแนวเขตเวนคืนไปตามบ้านเรือนหลายหลังที่ขึ้นป้ายคัดค้าน
ยืนยันว่า จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เพราะตนเป็นข้าราชการกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน เมื่อสิ่งที่รัฐจะสร้าง บังเอิญไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน และทำให้เป็นทุกข์ ก็ไม่รู้ว่า จะสร้างถนนไปทำไม จึงต้องมารับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านด้วยตนเอง
เบื้องต้นสามารถแยกเป็น 3 ประเด็น คือ 1. เรื่องการตัดถนนใหม่จะยุติได้หรือไม่ 2. จะย้อนไปดูการทำประชาคมใหม่ เบื้องต้นทราบว่า ที่ผ่านมา บริษัทเอกชนที่รับงาน ดึงคนที่ได้รับผลประโยชน์ แต่ไม่เรียกผู้ที่ได้รับผลกระทบมาพูดคุย 3. หากคนประโดก-กรมธรรม์ ต.สมอแข ไม่เอาถนนจริงๆ ยืนยันไม่เอา (เซ็นสำรวจทรัพย์สิน) เงินเวนคืนที่ดินจะได้หรือไม่ หรืออาจเปลี่ยนแปลงงบประมาณ อาจโยกงบฯไปลงถนนเส้นใหม่ อาทิ ฉ.5 เป็นต้น
ทั้งนี้ ตามแผนงานกรมทางหลวงชนบทจะดำเนินการก่อสร้างถนนตามผังเมืองรวม สาย ฉ2 รูปแบบเป็นลาดยางขนาด 4 ช่องจราจร เขตทางประมาณ 30 เมตร รวมระยะทางรวมประมาณ 9.627 กม. เริ่มต้นที่ทางหลวงหมายเลข 12 ประมาณ กม. 8+300 (สามแยกบึงราชนกหรือหลังวัดสมอแข) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือตัดกับทางหลวงหมายเลข 11 ประมาณ กม.2+180
จากนั้น แนวถนน ฉ.2 ไปตัดกับถนน ฉ.1 ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่อีกเส้นก่อนหน้านี้ ที่กรมโยธาธิการจังหวัดพิษณุโลกเป็นเจ้าภาพดำเนินการ แต่ยังไม่สามารถใช้ได้ และปลายปีที่ผ่านมา ก็เคยเกิดปัญหาคือ ตัดเฉียด (ตัดผ่าน) สวนเฉลิมพระเกียรติฯ หน้าแยกเรือนแพ ซึ่งเรื่องได้ยุติลงแล้ว แต่มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีกลุ่มก๊วนนายทุน ทั้งผู้บริหาร อปท.- กลุ่มทุนข้าราชการ แห่จับจองซื้อที่ดินดักรอไว้ก่อนที่จะมีการตัดถนนแล้ว
และถนน ฉ.2 จะไปตัดกับ ถนน ฉ.1 ระบายการจราจรสู่ถนนสาย 11 บริเวณ สี่แยกอินโดจีนและแยกประโดก ต.สมอแข ไปบรรจบกับถนนธรรมบูชาถือเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ ระยะทางรวมประมาณ 9.627 กม. มีความกว้างผิวจราจรช่องละ 3.50 เมตร มีไหล่ทางข้างละ 3.50 เมตร มีเกาะกลางแบบถมกว้าง 4.20 เมตร เขตทางประมาณ 30 เมตร