เชียงใหม่ - เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดพบเพิ่มแค่ 10 ราย ลุ้นพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 64) ศบค.ประกาศลดระดับการควบคุมพื้นที่พร้อมผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ขณะเดียวกันเร่งแผนรุกสำรวจลงทะเบียนความต้องการวัคซีน ตั้งเป้าฉีดให้ครบ 70% ภายใน 4 เดือน
วันนี้ (14 พ.ค. 64) ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน โดย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเพียงจำนวน 10 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,970 ราย รักษาหายแล้ว 3,405 ราย คิดเป็นร้อยละ 86 ของผู้ป่วยทั้งหมด ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภทจำนวน 551 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 ของผู้ป่วยทั้งหมด และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่จนถึงขณะนี้อยู่ที่ 14 ราย
ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 419 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 81 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 37 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 14 ราย และจากการที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 50 รายมาเป็นเวลา 12 วันแล้ว ทาง ศบค.อาจจะมีแถลงข่าวผ่อนคลายมาตรการจังหวัดเชียงใหม่ และลดระดับการควบคุมพื้นที่ลง จึงขอให้ติดตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 64)
สำหรับการตรวจทางห้องปฏิบัติการเมื่อวานนี้ (13 พ.ค. 64) ได้ทำการตรวจไปทั้งหมด 1,201 ราย พบผู้มีผลบวกเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.58 เมื่อพิจารณาตามสถานที่ตรวจโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลประจำอำเภอ และโรงพยาบาลเอกชน พบผู้มีผลบวกในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันคือร้อยละ 8.37 และ 8.20 ตามลำดับ ส่วนปัจจัยเสี่ยงยังคงเดิมคือสัมผัสในครอบครัวยังมีแนวโน้มสูง
ด้านการสัมผัสในชุมชน สถานที่ทำงาน และการนำเข้ามาจากต่างพื้นที่ยังคงทรงตัว และการสัมผัสในสถานบันเทิงไม่พบผู้มีปัจจัยเสี่ยงมาเป็นระยะเวลาหลายวันแล้ว ขณะที่การตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงและกลุ่มอาชีพเสี่ยงนั้น วันนี้ (14 พ.ค. 64) ทางไรเดอร์หรือพนักงานส่งอาหาร Grab Food ได้เริ่มทยอยมารับการคัดกรองที่โรงพยาบาลสนามแล้วทั้งหมด 170 ราย และที่วัดนันทาราม จำนวน 90 ราย ซึ่งจะทราบผลการตรวจในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 64)
ส่วนวานนี้ (13 พ.ค. 64) ทางทีมตรวจคัดกรองได้ลงพื้นที่ตรวจในกลุ่มพนักงานขับรถบริษัทนิ่มซี่เส็งทั้งหมด 239 ราย พบผู้มีผลบวก 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.51 และทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาตัวแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ทีมงานจะลงพื้นที่สอบสวนโรค และค้นหากลุ่มเสี่ยงสูงต่อไป สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ วันนี้มีเพียง 1 คลัสเตอร์ คือ บ้านโพธิ์ทองเจริญ อำเภอดอยสะเก็ด ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 รายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่มาร่วมงานเลี้ยง ซึ่งทีมควบคุมโรคอำเภอดอยสะเก็ดได้ลงพื้นที่ควบคุมโรคและค้นหากลุ่มเสี่ยงเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ดร.ทรงยศกล่าวถึงกรณีมีผู้ปล่อยข่าวเท็จ (Fake News) ด้วยการแอบอ้าง ตัดต่อข้อมูลพื้นที่เสี่ยงของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิดความวุ่นวายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่า ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้มอบหมายให้นิติกร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ก็ยังต้องรักษามาตรการป้องกันโรคอย่างเต็มที่ งดจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ล้างมือบ่อยครั้ง รักษาระยะห่าง และสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ จากจำนวนประชากรทั้งหมด 1,700,000 คน โดยทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป้าหมายให้ฉีดได้มากกว่าร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่กำหนดแผนปฏิบัติการให้ได้อย่างน้อย 12,000 โดสต่อวัน และให้ได้ตามเป้าหมายภายใน 4 เดือน
ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการวัคซีนของประชาชน เพื่อยืนยันจำนวนที่แน่นอน โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานในท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม.ให้ร่วมกันดำเนินการสำรวจ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม โดยจากลงพื้นที่ในวันนี้ (14 พ.ค. 64) มีประชาชนมาลงทะเบียนแล้วกว่า 1,000 คน
ด้านนายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสำนักนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประกาศปิดหมู่บ้าน 2 แห่ง คือบ้านแม่อ้อ ใน ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และบ้านไร่ ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง ว่าทางอำเภอได้ทำการสำรวจและรายงานไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 294 ชุด เป็นจำนวนเงิน 205,800 บาท
พร้อมกันนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้กำชับให้หน่วยงานความมั่นคงตั้งด่านตรวจตามแนวชายแดนเพื่อสกัดการหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำผู้ประกอบการ แรงงานต่างด้าว ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง หากพบเห็นแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าพื้นที่ ให้แจ้งอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครองในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
