เชียงใหม่ - “แกร็บ ประเทศไทย” ร่อนแถลงการณ์ชี้แจงกรณีศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ระบุไม่ได้รับความร่วมมือตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มไรเดอร์ ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี เพียงแต่อาจเกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน เตรียมนัดหมายใหม่ภายในสัปดาห์หน้า เน้นย้ำความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญเสมอ
จากกรณีศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ทาง Grab Food เชียงใหม่ ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19ในกลุ่มพาร์ทเนอร์ที่เป็นไรเดอร์ส่งอาหาร ซึ่งเดิมกำหนดดำเนินการในวันที่ 11 พ.ค. 64 แต่ต้องยกเลิกไป โดยระบุสาเหตุว่าไม่ได้รับความร่วมมือในการจัดเตรียมสถานที่และนัดหมายไรเดอร์เพื่อทำการตรวจนั้น วันนี้ (12 พ.ค. 64) แกร็บ ประเทศไทย ออกหนังสือชี้แจง เรื่อง แถลงการณ์จาก แกร็บ ประเทศไทย กรณีที่มีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 สำหรับกลุ่มคนขับรถเพื่อจัดส่งอาหารในจังหวัดเชียงใหม่
โดยเนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่มีการรายงานข่าวของสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรวมถึงกลุ่มคนขับรถเพื่อจัดส่งอาหาร โดยระบุว่า แกร็บฟู้ด (GrabFood) ไม่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมดังกล่าวนั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ ว่า ศูนย์อบรมสาขาย่อยของแกร็บ (Mini GC) ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการติดต่อและประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความร่วมมือในการจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการสื่อสารและส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 อย่างไรก็ตาม ด้วยการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนจึงทำให้กิจกรรมดังกล่าวต้องถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ขอยืนยันว่า แกร็บไม่เคยมีเจตนาที่จะปฏิเสธหรือไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศ แกร็บ ประเทศไทย ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบด้านสาธารณสุขมาโดยตลอด เช่น กรมควบคุมโรค และกรมอนามัย ผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้ใช้บริการ พาร์ตเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหาร รวมถึงพาร์ตเนอร์ร้านอาหาร
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 สำหรับกลุ่มพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บในจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ โดยจะแจ้งรายละเอียดต่างๆ ทั้งวัน เวลา และสถานที่ในการจัดกิจกรรมให้พาร์ตเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารได้รับทราบผ่านทางช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ
นอกจากนี้ แกร็บ ประเทศไทย ขอยืนยันอีกครั้งว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านบริการการเดินทาง และบริการรับ-ส่งอาหารและพัสดุ ภายใต้ โครงการ “แกร็บแคร์” (GrabCares) #เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกที่ 3 นี้ แกร็บมุ่งเน้นการสื่อสารเพื่อตอกย้ำให้พาร์ตเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหาร รวมถึงพาร์ตเนอร์ร้านอาหาร ปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยต่างๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยสำหรับตนเอง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ เช่น การแนะนำให้พาร์ตเนอร์คนขับปฏิบัติตามแนวทางหรือข้อกำหนดของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ การหมั่นทำความสะอาดยานพาหนะ รวมถึงการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การใช้มาตรการจัดส่งอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless Delivery) โดยให้พาร์ตเนอร์คนขับเว้นระยะห่างกับลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตรตลอดเวลา รวมถึงการรอรับอาหารที่ร้านจะต้องยืนห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร ขณะต่อคิวที่ร้านอาหาร, การส่งเสริมให้ผู้ใช้งานชำระค่าบริการผ่านบัตรหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (GrabPay หรือ GrabPay Wallet) โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารในการส่งเสริมการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสด, การใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย เช่น การใช้ระบบคัดกรองด้านสุขภาพและสุขอนามัยผ่านแอปพลิเคชัน โดยพาร์ตเนอร์คนขับทุกคนจะต้องทำแบบประเมินเพื่อยืนยันว่าไม่มีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 และจะต้องถ่ายภาพเซลฟีของตนเองขณะสวมใส่หน้ากาก พร้อมอัปโหลดภาพผ่านระบบเพื่อยืนยันตัวตนก่อนให้บริการในทุกวัน และการสนับสนุนค่าตรวจโรคโควิด-19 ให้กับพาร์ตเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารมูลค่า 500 บาท พร้อมมอบเงินชดเชยรายได้สูงสุด 9,500 บาท หากตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานภาครัฐ หรือได้รับการติดต่อจากพาร์ตเนอร์คนขับที่แจ้งว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง บริษัทฯ จะทำการระงับสัญญาณการให้บริการทันที และจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลัง รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์คนขับทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว โดยบริษัทฯ จะทำการเปิดระบบกลับมาอีกครั้ง หากได้รับเอกสารยืนยันผลการตรวจเป็นลบเป็นที่เรียบร้อย