ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่องเที่ยวเกาะช้าง กระทบหนักหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ทำผู้ประกอบการโรงแรมทยอยปิดบริการแล้วกว่า 40% เชื่อหาก พ.ค.ไม่คลี่คลายยอดปิดหนีทะลุ 70% ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหารเมืองพัทยา ร้องรัฐขอเปิดให้นั่งรับประทานได้
วันนี้ (8 พ.ค.) นายวิชิต สุกะสูยานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ตราด เผยถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกจนถึงระลอก 3 ว่า ไม่เพียงแต่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่ไม่ได้เท่านั้น วันนี้แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยก็เดินทางเข้าพื้นที่น้อยลง
โดยเฉพาะหลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ในช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลายเป็นศูนย์หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากคลัสเตอร์งานปาร์ตี้สังสรรค์ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งเป็นจำนวนมาก
จนทำให้ทางจังหวัดต้องกำหนดมาตรการเข้มงวดเรื่องการเดินทางเข้าพื้นที่ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องมีใบรับรองจากแพทย์หรือโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลที่ทางราชการรับรองว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าพื้นที่เป็นเวลา 72 ชั่วโมง
ผลที่ตามมาคือ โรงแรมหลายแห่งทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่เริ่มทยอยปิดบริการไปแล้วไม่น้อยกว่า 40% นับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งค่าแรงงาน ค่าน้ำ ค่าไฟได้
“ตอนนี้โรงแรมหลายแห่งบนเกาะช้างยังมีแนวโน้มที่จะปิดบริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังไม่นิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะยังไม่เดินทางเข้ามา”
นายวิชิต กล่าวอีกว่า หากในช่วงกลางเดือน พ.ค.2564 การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่กลายเป็นศูนย์ รัฐบาลและจังหวัดตราด จะยังคงมาตรการเข้มงวดต่อไป และอาจจะทำตลอดทั้งเดือน พ.ค. จะไม่มีนักท่องเที่ยวกล้าเดินทางเข้า ซึ่งจะทำให้โรงแรมและรีสอร์ตต่างๆ อาจจะต้องปิดตัวเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 70%
เกาะกูดแม้เปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วแต่ยังไม่คึกคัก
ขณะที่ น.ส.พลับพลึง เพิ่มทรัพย์ ประธานชมรมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะกูด เผยว่าแม้ขณะนี้ อ.เกาะกูด จะเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังประกาศปิดเกาะเป็นเวลา 10 วัน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ แต่ในวันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพักผ่อนไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน
ผู้ประกอบการร้านอาหารพัทยาวอนรัฐทบทวนคำสั่งห้ามนั่งกินในร้าน
เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะคำสั่งห้ามไม่ให้มีการนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน จนทำให้ในวันนี้ผู้ประกอบการหลายรายได้พากันออกมาเรียกร้อง ศบค.พิจารณายอกเลิกคำสั่งดังกล่าว
ที่กำหนดให้ร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัดที่ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ ห้ามไม่ให้บริการนั่งรับประทานอาหารในร้านเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.วรุณพัชปภาดา จันทร์สว่าง ผู้บริหารโครงการ Small Town Pattaya ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยริมถนนเฉลิมพระเกียรติสาย 3 พัทยากลาง ที่มีร้านอาหารภายในโครงการรวม 15 ร้าน เผยว่า ผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าวทำให้บรรยากาศภายในโครงการเป็นไปอย่างเงียบเหงาแทบไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการ
โดยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 3 ครั้งทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่เช่าพื้นที่ต้องปรับตัวตามมาตรการของภาครัฐมาโดยตลอด แต่เนื่องจากพื้นที่โครงการเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เคยมีลูกค้าประจำมานั่งรับประทานที่ร้านก็หายไป ทำให้ธุรกิจก็พลอยหดหายตามไปด้วย
เช่นเดียวกับ นายไพรทูล บุญศรี เจ้าของร้านสถานีส้มตำวินเทจ พัทยา หนึ่งในผู้ประกอบการภายในโครงการ Small Town Pattaya บอกว่า ผลกระทบจากการไม่สามารถเปิดร้านให้ลูกค้านั่งรับประทานได้ คือการปรับตัวด้วยการขายอาหารตามสั่งผ่านระบบเดลิเวอรี ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องจัดเตรียมวัตถุดิบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าในแต่ละวันจะมีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาสั่งอาหารมากน้อยเพียงใด
จึงถือว่าเป็นเรื่องยากต่อการปรับตัว จึงอยากให้ภาครัฐพิจารณาความเหมาะสมในการผ่อนปรนผู้ประกอบการให้สามารถทำมาค้าขายได้ด้วย