ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ในหลวง-ราชินีพระราชทานเครื่องเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิทัลที่พร้อมปฏิบัติงานภาคสนามแก่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุดโคราชเสียชีวิตอีก 2 ราย รวมเป็น 4 ราย พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 16 ราย รวมสะสม 714 ราย
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และคณะผู้บริหาร ข้าราชการ แพทย์ พยาบาล ร่วมพิธีรับพระราชทานเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล เพื่อรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 จำนวน 1 เครื่อง เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นวงกว้างในขณะนี้ ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น และพบภาวะปอดอักเสบเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องได้รับการตรวจภาพรังสีปอดให้ทันท่วงทีเพื่อคัดแยกผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาพยาบาลเร็วขึ้น ลดระยะเวลาในการรักษาพยาบาล และลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19
สำหรับเครื่องเอกซเรย์ระบบดิจิทัลเป็นเครื่องเอกซเรย์ระบบดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีการประมวลผลแบบ AI Technology หรือปัญญาประดิษฐ์ สามารถส่งข้อมูลการวินิจฉัยของผู้ป่วยไปยัง Platform ต่างๆ ช่วยแพทย์ทำการวิเคราะห์ ประเมินคัดกรองผู้ป่วย เพื่อต้องการตรวจหาร่องรอยของโรคด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบ AI Technology ซึ่งเครื่องจะทำการตรวจจับแสดงตำแหน่งที่พบความผิดปกติด้วยจุด Detection แสดงผลผ่านหน้าจอทันที แพทย์สามารถมองเห็นภาพเอกซเรย์ปอดของผู้ป่วยผ่านจอมอนิเตอร์หาร่องรอยโรค หรือความผิดปกติของโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการตรวจ ซึ่งถือว่าช่วยแบ่งเบาการทำงานและลดความเสี่ยงของแพทย์ได้เป็นอย่างดี
ส่วนที่บริเวณคลินิกทางเดินหายใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จุดตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 มีประชาชนจากอาชีพต่างๆ ทหาร พนักงานทยอยเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 กันเป็นระยะๆ ไม่ขาดสาย โดยไม่เสียค่าบริการ ซึ่ง จ.นครราชสีมามีจุดตรวจหาเชื้อ 2 จุด คือ หน้าโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และหน้าโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา โดยผู้ที่เข้าตรวจหาเชื้อต่างมั่นใจและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ มีบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านขนมปัง เดินทางไปมอบขนมปัง น้ำดื่ม น้ำวิตามินซี กันเป็นจำนวนมาก
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ยังความปลาบปลื้มปีติแก่พี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งจะมาช่วยทางโรงพยาบาลมหาราชฯ ที่ต้องรับคนไข้จำนวนมาก ซึ่งเครื่องดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างสูงที่ต้องใช้ในการเอกซเรย์ผู้ป่วยที่ไม่ต้องเดินทางมาที่ รพ.มหาราชฯ โดยอาจจะไปไว้ประจำยังโรงพยาบาลสนาม โดย รพ.มหาราชฯ จะเป็นผู้บริหารจัดการในการใช้ประโยชน์ตามความจำเป็น
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 714 ราย รักษาหาย 330 ราย ยังคงรักษาอยู่ 380 ราย พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 4 ราย สถานการณ์ถือว่าทรงๆ และมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากจะมีวันหยุดยาวอีก 3 วัน ได้แจ้งไปยังทุกอำเภอ และ อสม.ให้เข้มงวดคนที่เดินทางเข้า จ.นครราชสีมาจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของ จ.นครราชสีมาอย่างเคร่งครัดและเข้มงวดทุกคน คือจะต้องมีการรายงานตัว มีการคัดกรอง ถ้าคนไหนไปในพื้นที่เสี่ยงมาก็จะต้องมีการกักตัว ทั้ง 3 มาตรการนี้รองรับ
แต่เป็นที่น่าเสียใจว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เสียชีวิตเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) 1 ราย เป็นผู้หญิงชาว อ.ครบุรี และวันนี้อีก 1 ราย เป็นชายชาว อ.โชคชัย เป็นผู้สูงอายุกว่า 80 ปี มีโรคประจำตัว ทั้งโรคเรื้อรัง เบาหวาน รวมมีผู้เสียชีวิต 4 รายแล้ว
ส่วนการลงทะเบียนฉีดวัคซีน จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายประมาณ 850,000 รายเศษ ส่วนการปิดหมู่บ้านเพิ่มเติมนั้นสามารถขอมายังจังหวัดฯ ได้ โดยที่ อ.ด่านขุนทด พื้นที่เดิมได้เปิดหมู่บ้านแล้ว ส่วนที่จะมีการขอปิดอีก 2 หมู่บ้าน ก็ขอให้แจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมาได้ เพื่อจะได้หารือแนวทางอีกครั้ง
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ที่อาการโคม่าขณะนี้มี 22 คน ที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดยมีอยู่ 2 แบบ คือ ใส่เครื่องช่วยหายใจ และใส่เครื่องให้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง ซึ่งแพทย์ถือว่าเป็นผู้ป่วยที่มีความรุนแรง แพทย์ของเราทุกคนยืนยันว่าดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่แน่นอน ในทุกๆ ราย ไม่ต้องกังวล และอยากขอให้ประชาชนชาว จ.นครราชสีมาได้ป้องกันตัวเองกันอย่างเต็มที่ด้วย เพราะตอนนี้เชื้อโควิด-19 มันติดง่ายและเชื้อลงปอดได้มากกว่าการระบาดระลอกแรก จึงขอให้สวมมาสก์ตลอดเวลาเมื่อออกจากเคหสถาน และการล้างมือบ่อยๆ ไม่ขยี้ตา และต้องเว้นระยะห่าง ทั้ง 3 ประการเป็นวัคซีนที่ป้องกันได้เป็นอย่างดี
จากนั้น นายวิเชียร จันทรโรทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรับโทรศัพท์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา โดยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้เปิดสายด่วนลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-4423-5777 และ 0-4423-5888 จำนวน 20 คู่สาย เพื่อตอบคำถามและรับลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชน โดยเปิดให้บริการสายด่วนทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในแต่ละวันจะมีจำนวนประชาชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามและลงทะเบียนมากกว่า 1,000 สาย ทั้งนี้ ในจังหวัดนครราชสีมามีจำนวนเป้าหมายกลุ่มเสี่ยง 7 โรค และกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมจำนวน 857,052 ราย ประกอบด้วย กลุ่มเสี่ยง 7 โรค 663,867 ราย แยกเป็น 1. โรคทางเดินหายใจ 15,360 ราย 2. โรคหัวใจและหลอดเลือด 6,437 ราย 3. โรคไตเรื้อรังระยะ 5 2,656 ราย 4. โรคหลอดเลือดสมอง 18,874 ราย 5. โรคมะเร็งทุกชนิด 46 ราย 6. โรคเบาหวาน 125,338 ราย และ 7. โรคอ้วนที่มีน้ำหนักเกิน 100 กก. 24,474 ราย และกลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 663,867 ราย อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่เมษายนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีกจำนวน 16 ราย พบในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา 6 ราย, อ.ปากช่อง 2 ราย, อ.บัวใหญ่ 2 ราย, อ.พิมาย 2 ราย, อ.ด่านขุนทด 1 ราย, อ.โนนสูง 1 ราย, อ.สีคิ้ว 1 ราย และ อ.สูงเนิน 1 ราย
รวมผู้ป่วยสะสม 714 ราย กระจายใน 28 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ รักษาหายเพิ่ม 33 ราย รักษาหายสะสม 330 ราย ยังรักษาอยู่ 380 ราย เสียชีวิตเพิ่มจำนวน 2 ราย รวมสะสมเสียชีวิต 4 ราย ใน อ.ปากช่อง, อ.สีดา, อ.ครบุรี และ อ.โชคชัย สำหรับข้อมูล รพ.สนาม มีผู้ป่วย 20 ราย แบ่งเป็นชาย 11 ราย หญิง 9 ราย คงเหลือเตียงว่างใน รพ.สนาม 180 เตียง