xs
xsm
sm
md
lg

ศาลพิพากษาจำคุกนายพราน 2 พ่อลูก กรณีล่าเลียงผา ทำร้ายเจ้าหน้าที่ปี 63

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ศาลพิพากษาจำคุกนายพราน 2 พ่อลูก 2 ปี 29 เดือน ปมล่าเลียงผา ทำร้ายเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เขตฯ สลักพระเจ็บ เมื่อปี 63

จากกรณีนายไพฑูรย์ อิทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี ออกลาดตะเวนเชิงคุณภาพเพื่อป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ขณะลาดตระเวนไปถึงบริเวณกลางป่าหุบข่อย หมู่ 1 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พิกัดที่ 47 P 521300 E 1603201 N

พบกลุ่มนายพราน จำนวน 4 คน กำลังแบกซากสัตว์ออกมาจากป่า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ระหว่างเข้าทำการจับกุมกลุ่มนายพรานทั้ง 4 คนได้พยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตาม ระหว่างนั้นนายพราน 1 ใน 4 คนได้ใช้อาวุธมีดที่นำติดตัวมาด้วยทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา


ระหว่างชุลมุน นายพรานสามารถวิ่งหลบหนีไปได้ จำนวน 3 คน และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ จำนวน 1 คน คือ นายวศิน กากี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 4 ต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางซากเลียงผา หนัก 14 กิโลกรัม ซากตะกวด 1 ซาก น้ำผึ้งป่า หนัก 1 กิโลกรัม มีดโต้ จำนวน 1 เล่ม รวมทั้งหม้อสนามและอุปกรณ์เดินป่ารวม 6 รายการ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 ที่ผ่านมา

ต่อมา วันที่ 10 เม.ย.63 นายสมเดช กากี อายุ 57 ปี พ่อของนายวศิน 1 ใน 3 นายพรานที่หลบหนีการจับกุม และเป็นผู้ใช้อาวุธมีดก่อเหตุทำร้ายนายอัฐพล เฉียบแหลม พนักงานพิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่แขนขวา ต้องเย็บ 2 เข็ม ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ โดยในวันดังกล่าว พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีด้วยตนเอง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว 

ล่าสุด วันนี้ (4 พ.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นมานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ความสนใจในคดีนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บด้วย


จึงสั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างใกล้ชิด จนในที่สุดคดีก็เข้าสู่กระบวนการของชั้นศาล มีพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นโจทก์ มีนายวศิน กากี และนายสมเดช กากี 2 พ่อลูกเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ1868/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อ1703/2563 ในข้อหา “ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ความผิดต่อรางกาย ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน ความผิดต่อพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ลหุโทษ” สำหรับคดีดังกล่าวมีผู้ร่วมก่อเหตุ จำนวน 4 คน โดย 2 ใน 4 ไม่ได้เข้ามอบตัวและอยู่ระหว่างการหลบหนี คือ นายนิติกรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) และนายวิทวัส (ขอสงวนนามสกุล) เยาวชน


โดยกระบวนการการไต่สวนมูลฟ้องใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น และเมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกนาย วศิน กากี จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 23 เดือน แต่ปรากฏว่าปี 2562 นายวศิน เคยก่อเหตุและถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันมาก่อน ซึ่งครั้งนั้นศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ระหว่างรอลงอาญา นายวศิน กากี จำเลยที่ 1 ได้กระทำความผิดซ้ำอีก ศาลจึงเพิ่มโทษจำคุกอีก 6 เดือน เป็นจำคุก 2 ปี 29 เดือน ส่วนนายสมเดช กากี จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพ่อของนายวศิน จำเลยที่ 1 ศาลได้พิพากษา จำคุกเป็นเวลา 2 ปี 29 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า การที่ตนหยิบยกคดีและบทลงโทษนี้ขึ้นมานั้นเพื่อต้องการให้เป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชนทั่วไป รวมทั้งกลุ่มนายพรานที่นิยมเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ หากไม่ถูกจับกุมก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าหากถูกจับกุมตัวเมื่อไหร่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น