เชียงใหม่ - เชียงใหม่เชิญผู้นำทุกศาสนาหารือขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หลังพบแพร่ระบาดในสถานที่จัดกิจกรรมศาสนามีแนวโน้มสูงขึ้น พร้อมเน้นย้ำครอบครัว ชุมชน และที่ทำงานตั้งการ์ดสูง โดยล่าสุดไม่พบคลัสเตอร์ใหม่ แต่มีผู้ป่วยเพิ่มในกลุ่มก้อนเดิม
ช่วงค่ำวันนี้ (24 เม.ย. 64) ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้เชิญผู้นำทางศาสนาทุกศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมประชุมหารือกันเพื่อขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค เนื่องจากพบว่าเริ่มมีการแพร่ระบาดในสถานที่จัดกิจกรรมทางศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเน้นย้ำขอความร่วมมือให้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นในเร็ววัน
ขณะที่จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณาเรื่องการแพร่ระบาดในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ซึ่งอยู่รอบนอกของอำเภอเมือง โดยอำนาจการสั่งการมอบให้นายอำเภอพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ทั้งเรื่องการห้ามใช้อาคาร การห้ามเข้าออก โดยให้พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อให้การควบคุมโรคระบาดในพื้นที่สามารถดำเนินการไปได้ด้วยการบูรณาการ พร้อมกันนี้ ได้พิจารณาเรื่องการยกระดับการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสรุปว่าเบื้องต้นจะมีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะและที่มีการรวมกลุ่มกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทั้งที่โรงเรียน บ้าน หรือสถานที่ที่มีการเฉพาะ ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จะได้มีการออกคำสั่งเพื่อให้ปฏิบัติไปแนวทางเดียวกันต่อไป
ด้าน ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ในวันนี้ (24 เม.ย. 64) พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 163 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,133 ราย และรักษาหายแล้ว 692 ราย โดยยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 2,441 ราย ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาลสนามทุกแห่ง 1,845 ราย ขณะที่จากการตรวจคัดกรองหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงจำนวนทั้งหมด 2,439 ราย พบติดเชื้อร้อยละ 5.08 ซึ่งถือว่าลดลง แต่ตรวจพบเชื้อจากการตรวจในโรงพยาบาลประจำอำเภอเพิ่มมากขึ้น มีข้อมูลสรุปพบว่าการสัมผัสในสถานบันเทิงลดลงเหลือร้อยละ 45.9 การสัมผัสในครอบครัวเพิ่มร้อยละ 16.4 สัมผัสในชุมชนเพิ่มร้อยละ 10.7 และสัมผัสในที่ทำงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10
ส่วนจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ขณะนี้ตรวจไปแล้ว 2,610 ราย พบผลบวก 37 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.42 โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่มีอาการ และไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ ดังนั้น ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่จึงต้องทำการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหลงเหลือในชุมชนและกลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรค ขณะที่การระบาดเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์นั้น ในวันนี้ยังไม่พบคลัสเตอร์ใหม่ โดยคลัสเตอร์เดิมทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ขยายวงการค้นหากลุ่มเสี่ยง ซึ่งผลการตรวจในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจากคลัสเตอร์ของเรือนจำกลางจำนวน 8 ราย คลัสเตอร์ศูนย์เด็กเล็กตำบลแม่คือเพิ่มจำนวน 1 ราย และคลัสเตอร์งานศพที่อำเภออมก๋อย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 10 ราย และมีไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ต่ออีก ซึ่งขณะนี้ทางทีมสอบสวนโรคประจำอำเภออมก๋อยได้ทำการค้นหาผู้สัมผัสในงานเพิ่มขึ้นแล้ว และจะแจ้งผลการตรวจให้ทราบต่อไป
นอกจากนี้ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำเตือนการปฏิบัติตัวของประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ว่า ให้ยึดหลัก “สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมือเมื่อไปในสถานที่เสี่ยง และไม่รับประทานอาหารร่วมกัน” เพื่อความปลอดภัย โดยสถานที่ เช่น รถโดยสารสาธารณะ ตลาด ห้างสรรพสินค้า สถานที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่มีการจัดกิจกรรม ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด หากมีความจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย