ศรีสะเกษ - แม่เหยื่อกาม “นายพุทธะ” หรือ “หลวงปู่องค์ดำ” พร้อมให้ลูกสาวและหลานตรวจดีเอ็นเอ แต่ต้องตรวจทั้ง 3 คน ขณะผู้ใหญ่บ้านเผยเหยื่อกามสาวหลังคลอดลูกเคยขอให้ช่วยพาไปเจรจากับนายพุทธะผู้ทำให้ท้องและเด็กเป็นลูกนายพุทธะ ขณะสาวเหยื่อกามหายตัวออกจากบ้าน คาดหนีเรื่องฉาว
วันนี้ (23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล อายุ 38 ปี ชาว จ.กระบี่ แต่งกายคล้ายพระสงฆ์แต่เป็นสีดำ อ้างว่าเป็นหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล หรือหลวงปู่องค์ดำ ซึ่งในช่วงที่นายพุทธะได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่หนองเดียงบ่อโบราณวังพญานาค ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ข่มขืนสาวชาวบ้านเดียงตะวันออกจนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุประมาณ 4 ขวบ และต่อมา นางสอน (นามสมมติ) สาวชาวบ้านได้กลับคำปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักกับนายพุทธะและไม่เคยถูกข่มขืน โดยอ้างว่าลูกสาวที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นลูกที่เกิดแก่สามีเก่า ต่อมา นางสุคนธ์ อินทร์โสภา ผญบ.หมู่ 2 บ้านเดียงตะวันออกได้เรียกร้องให้นางสอนนำตัวลูกสาวอายุ 4 ขวบไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่นายพุทธะ ล่าสุดญาติของนางสอนได้ออกมาเปิดเผยว่า การที่นางสอนต้องให้การปฏิเสธนั้นเนื่องจากว่ามีลูกศิษย์ของนายพุทธะมาข่มขู่ทำให้นางสอนหวาดกลัวจึงต้องปฏิเสธไปว่าไม่เคยรู้จักนายพุทธะและไม่เคยถูกข่มขืน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านเดียงตะวันออก ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพบว่ามีชาวบ้านจำนวนหนึ่งพากันมาแสดงความยินดีกับ นางสุคนธ์ อินทร์โสภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นกำนัน ต.เวียงเหนือ คนใหม่ ซึ่งนางสุคนธ์กล่าวว่า ตนไม่เคยเข้าไปข่มขู่นางสอนที่บ้านแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีข่าวเกิดขึ้น ตน พร้อมด้วยนางตู่ ได้ไปที่บ้านนางสอน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าเพราะเหตุใดที่นางสอนในช่วงแรกได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าโดนนายพุทธะข่มขืน 4 ครั้งจนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน และต่อมาได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักนายพุทธะและไม่เคยโดนข่มขืน ตนกับนางตู่ได้เข้าไปหานางสอนเพื่อต้องการให้ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนว่าความจริงคืออะไร ไม่ได้เข้าไปข่มขู่นางสอนแต่อย่างใด
นางสุคนธ์ อินทร์โสภา ผญบ.หมู่ 2 กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่านางสอนมีสัมพันธ์กับนายพุทธะจนมีลูก 1 คน มีแต่นางสอนได้โทรศัพท์มาหาตนหลังจากที่คลอดลูกแล้วไม่รู้ว่าไปคลอดลูกตอนไหน บอกว่าอยากให้ตนพาไปหาหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาลที่หนองเดียงบ่อโบราณวังพญานาค โดยบอกว่าหลวงปู่ทำตนเองท้อง ซึ่งตนไม่รู้ว่าไปทำกันท้องตอนไหนเนื่องจากว่าช่วงหลังตนไม่ได้ไปที่ หนองเดียงบ่อโบราณเลย โดยนางสอนบอกกับตนว่าลูกที่คลอดออกมาเป็นลูกของหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล ตอนนั้นยังใช้ชื่อหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะอยู่ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นนายพุทธะ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 140/1 หมู่ 2 บ้านเดียงตะวันออก ซึ่งเป็นบ้านของนางสอน เหยื่อกามของหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล ได้พบกับแม่ของนางสอนกำลังป้อนข้าวน้องเย็น อายุ 4 ขวบ ลูกสาวของนางสอนอยู่ภายในบ้าน โดยแม่ของนางสอนกล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่ามีการเรียกร้องให้ตรวจดีเอ็นเอนั้น ตนมีความยินดีที่จะให้ลูกสาวกับหลานสาวเข้าไปตรวจดีเอ็นเอ แต่ว่าจะต้องตรวจดีเอ็นเอพร้อมกันทั้ง 3 คน คือ ลูกสาว หลานสาวของตน และนายพุทธะ เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ หากผลการตรวจออกมาปรากฏว่าหลานของตนเป็นลูกของเขาจริงจะเข้ามารับผิดชอบดูแลตนก็ไม่ว่า แต่ถ้านายพุทธะไม่รับผิดชอบตนก็ไม่ว่าอะไร
แม่ของนางสอนกล่าวต่อว่า ตนไม่ขอฝากอะไรไปถึงนายพุทธะ เพราะว่าไม่รู้จะฝากอะไร เรื่องที่แล้วไปแล้วก็ขอให้มันแล้วไป ตนบอกลูกสาวไปว่าอย่าสร้างเวรสร้างกรรมกันเลย นางสอนลูกสาวของตนบอกว่า เชื่อฟังแม่และไม่ได้เข้าไปหาหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาลอีกเลยจนถึงวันตาย จนกระทั่งมีนักข่าวเข้ามาทำข่าวนางสอนจึงได้บอกนักข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนได้บอกนางสอนไปว่าอย่าไปพูดอะไรอีกต่อไปเพราะว่าเสียเวลาทำมาหากิน เรามันคนยากคนจน พ่อพิการไม่สมบูรณ์ และไม่เคยไปที่ไหนอยู่แล้ว ให้เรื่องนี้มันจบกันไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่นางสอนได้มีการให้สัมภาษณ์เรื่องถูกข่มขืนนี้แพร่กระจายออกไป แต่ต่อมาได้กลับคำว่าไม่เป็นความจริงไม่ได้ถูกข่มขืน ปรากฏว่านางสอนได้หายออกไปจากบ้านไม่ได้เข้ามาที่บ้านอีกเลย และไม่มีใครทราบว่านางสอนไปพักอยู่ที่ใด คาดว่าต้องการหลบหนีจากเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้