กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย ส่วนใหญ่กลับจากพื้นที่เสี่ยงและสถานบันเทิงมาติดคนในครอบครัว ดันยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง 35 ราย เล็งเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 หากผู้ป่วยเพิ่ม ขอประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเคร่งครัด
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นายแพทย์ อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และนายแพทย์ ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ร่วมแถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ใน จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมจำนวน 35 ราย
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ใน จ.กาฬสินธุ์ล่าสุดมีผู้ป่วยระลอกเดือนเมษายน 2564 รวม 35 ราย กระจายอยู่ใน 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ยางตลาด 12 ราย, อ.เมือง 7 ราย, อ.กมลาไสย 5 ราย, อ.สมเด็จ 5 ราย, อ.สหัสขันธ์ 3 ราย, อ.สามชัย 1 ราย, อ.คำม่วง 1 ราย และ อ.นาคู 1 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย ประกอบด้วย
รายที่ 29 เพศหญิง อายุ 28 ปี ว่างงาน ภูมิลำเนา ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีอาการป่วย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร (รับประทานอาหารร่วมกัน) ก่อนตรวจพบติดเชื้อมีประวัติเดินทางอยู่ในกรุงเทพมหานคร มหาสารคาม และขอนแก่น เข้ารับการตรวจและพบเชื้อที่โรงพยาบาลเชียงยืน โรงพยาบาลกาฬสินธุ์รับมารักษาต่อตามภูมิลำเนา
รายที่ 30 เพศชาย อายุ 48 ปี นักการเมืองท้องถิ่น ภูมิลำเนา ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีอาการป่วย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายที่ 19 พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงวันที่ 16 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 09.00-12.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองตอกแป้น อ.ยางตลาด
รายที่ 31 เพศหญิง อายุ 31 ปี ว่างงาน ภูมิลำเนา ต.โนนแหลมทอง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ด้วยอาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 12 และ 17 (ครอบครัวเดียวกัน) พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงวันที่ 13 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 14.00-15.00 น. หาดดอกเกด เขื่อนลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์
รายที่ 32 เพศชาย อายุ 30 ปี อาชีพขับรถบรรทุกรับจ้าง ภูมิลำเนา ต.เนินยาง อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ด้วยอาการไข้ ไอ หายใจลำบาก ปวดศีรษะ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 23 สถานที่เสี่ยงมีความเกี่ยวพันกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 23 (ประกาศแล้วฉบับที่ 5)
รายที่ 33 เพศหญิง อายุ 38 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนา ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีอาการป่วย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 23 (รับประทานอาหารร่วมกัน) พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงวันที่ 13-18 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 08.00-18.00 น. ร้านขายของชำบ้านเลขที่ 71 ม.7 ต.นาจารย์ อ.เมืองกาฬสินธุ์
รายที่ 34 เพศหญิง อายุ 59 ปี อาชีพค้าขาย ภูมิลำเนา ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีอาการป่วย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.ชลบุรี พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงวันที่ 11-17 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 08.00-18.00 น. ร้านขายของชำบ้านเลขที่ 45 ม.5 ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์
รายที่ 35 เพศชาย อายุ 49 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ ภูมิลำเนา ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่การระบาด (กรุงเทพมหานคร) เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ด้วยอาการไข้ ไอ วิงเวียนศีรษะ และมีภาวะปอดอักเสบ พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงวันที่ 15 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 05.00-15.00 น. ร่วมงานแต่งที่หมู่ 3 ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม, วันที่ 18 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 12.00-13.00 น. คลินิกเอกชนหมอเอกรัตน์ อ.เมืองกาฬสินธุ์
นายทรงพลกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในครอบครัว กลุ่มเพื่อน และการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดใกล้เคียง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ 1. การสัมผัสใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 2. การถ่ายภาพใกล้ชิดกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย และ 3. การเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดใกล้เคียง
ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกท่านได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่น ไม่เข้าไปในสถานที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเท ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สแกนไทยชนะหรือหมอชนะ หากท่านที่สัมผัสใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงช่วงวันหยุดสงกรานต์ ควรสังเกตอาการตนเองที่บ้านอย่างน้อย 2 สัปดาห์
หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ถ่ายเหลว ตาแดง ผื่นขึ้น หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก โปรดแจ้งประวัติการสัมผัสกับผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้บุคลากรการแพทย์ทราบเพื่อคัดกรองความเสี่ยงด้วย
ด้านนายแพทย์ ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยทั้งหมด 35 รายได้รับตัวไว้รักษาทั้งหมด ขณะนี้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 24 ราย โรงพยาบาลสนามฆ้องชัย 10 ราย ซึ่งมีบางรายแรกเริ่มปกติ ไม่มีอาการ และไม่มีไข้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันกลับมีอาการไข้ ปอดบวม
ล่าสุดมี 2 รายที่ต้องรักษาในห้องความดันลบเนื่องจากอาการรุนแรง รายแรกต้องให้ออกซิเจนความเร็วสูง ส่วนรายที่สองได้ให้ออกซิเจนทั่วไป ขณะนี้ทั้งสองรายมีอาการดีขึ้นแล้วเพราะได้รับการรักษาทันท่วงที ส่วนการเตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนามนั้น หากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากเกินกว่าโรงพยาบาลกาฬสินธุ์และโรงพยาบาลสนามฆ้องชัยรับได้ จะเปิดใช้โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 บริเวณหลังศาลากลางหลังใหม่ภายใน 72 ชั่วโมง