xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 100% ใน 1 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงสาธารณสุข เสนอเพิ่มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ปิดพื้นที่เสี่ยง ยกเลิกกิจกรรมเสี่ยง งดการรวมตัว เสนอให้ทุกคนทำงานที่บ้าน จัดสรรวัคซีนซิโนแวค 6 แสนโดส เร่งฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ ด่านหน้าทั้งรัฐ และเอกชน ให้ครบ 100% ใน 1 เดือน

วันนี้ (14 เม.ย.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง (รก.11) นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงผลการประชุมศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 ว่า ที่ประชุมซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอาจารย์แพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและนอกกระทรวง มีการประชุมวางแผนรับมือโควิด-19 ใน 3 ประเด็น คือ 1. สถานการณ์โรคโควิด-19 ขณะนี้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกระจายไปทั่วประเทศ โดยมาตรการสำคัญที่ได้ทำไปแล้ว คือ การปิดสถานบันเทิง โดยมีการเสนอให้เพิ่มมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น ทั้งการปิดพื้นที่เสี่ยง ยกเลิกกิจกรรมเสี่ยง การจัดงานที่มีคนจำนวนมาก เน้นให้ทำงานที่บ้าน ขอความร่วมมือประชาชนปรับเพิ่มพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ และจะเสนอให้ ศบค.พิจารณาต่อไป

2. การบริหารจัดการเตียงดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ได้เพิ่มกลไกการทำงานให้บริหารจัดการเพิ่มเตียงมากขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ และ 3. เรื่องวัคซีนโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ด้วยข้อมูลระบาดวิทยาและด้านวิชาการ วัคซีนนำมาใช้ในประเทศไทย ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และ ซิโนแวค มีประสิทธิภาพ โดยรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีข้อสั่งการให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ และต้องฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขโดยเฉพาะด่านหน้าทั้งภาครัฐ และเอกชนให้ได้ 100%

ด้าน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-13 เม.ย. รวม 579,305 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 505,744 ราย และครบสองเข็ม 73,561 ราย ถือว่าฉีดได้ตามเป้าหมาย ส่วนวัคซีนซิโนแวคอีก 1 ล้านโดส ซึ่งรอการตรวจทางห้องปฏิบัติการและเอกสาร คาดว่า จะส่งมอบให้กรมควบคุมโรคได้ใน 1-2 วันนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขสั่งการให้จัดสรรวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน 6 แสนโดส โดยขอให้ดำเนินการฉีดให้ครบถ้วนภายใน 1 เดือน หรือต้องฉีดให้ครบทุกคนภายใน 2 สัปดาห์ เนื่องจากต้องฉีดคนละ 2 โดส

นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดในรอบนี้ ได้กระจายไปทั่วประเทศ มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องจากสถานบันเทิง และในกลุ่มนักศึกษาออกค่าย นักศึกษากลับภูมิลำเนา และพบการติดเชื้อในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า การทำกิจกรรมรวมกลุ่มในระยะนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อเป็นจำนวนมาก หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันลดพฤติกรรมเสี่ยง งดเว้นการจัดกิจกรรม จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคในวงกว้าง นอกจากนี้ หลังจากเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำให้หน่วยงานสาธารณสุขเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจคัดกรอง ติดตาม กำกับ กักตัว ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกคนให้ครบถ้วน ส่วนผู้ติดเชื้อแล้วต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ เอกชน Hospitel หรือโรงพยาบาลสนาม เท่านั้น ถึงแม้อาการไม่มาก แต่อาจเกิดอาการปอดบวมและภาวะแทรกซ้อนได้ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ลดโอกาสแพร่เชื้อให้คนในครอบครัว และชุมชน ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานให้เข้มมาตรการองค์กร เช่น การสวมหน้ากากอนามัยให้ได้ 100% ในที่ทำงาน ไม่ให้รับประทานอาหารร่วมกัน จัดรูปแบบการทำงาน Work from Home ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งให้หน่วยงานราชการทุกแห่งดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ในส่วนผู้ที่มีการเดินทางข้ามจังหวัดในทุกจังหวัด หากเป็นไปได้ให้ Work from Home อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อข้ามจังหวัด หรือหากกลับมาแล้วให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถ้ามีอาการผิดปกติให้แจ้งหน่วยงานสาธารณสุข โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือ โทร.1422 นำเข้าสู่ระบบการรักษา เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดให้ได้โดยเร็ว

สำหรับสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อขอให้เน้นการทำความสะอาดในจุดเสี่ยงที่มีผู้สัมผัสบ่อย เช่น ราวบันได กลอน ลูกบิดประตู ห้องน้ำ ปุ่มกดลิฟต์ ด้วยการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อบ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องพ่นฆ่าเชื้อในอากาศ เนื่องจากเชื้อไม่ได้อยู่ในอากาศเป็นเวลานาน ยกเว้นในสถานที่ที่มีคนหนาแน่น อากาศไม่ระบาย การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในอากาศตลอดเวลาถือว่าเกินความจำเป็น








กำลังโหลดความคิดเห็น