xs
xsm
sm
md
lg

สายข่าวชี้เป้าชัด! ส่องกล้องแกะรอยตั้งแต่สุพรรณฯ-เชียงราย ก่อนรวบ 7 ผู้ต้องหาขนไอซ์กว่าครึ่งตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ผู้บัญชาการฯ ภาค 5 นำทีมโชว์..แกะรอย-ตามรวบแก๊งค้ายานรกเครือข่ายสุพรรณฯ ขนไอซ์ 600 กก.จากเชียงรายล่องลงภาคกลาง เผยสายข่าวชี้เป้าชัด-ส่องกล้องไลเซนเพลส ตามตั้งแต่ต้น


วันนี้ (21 เม.ย. ) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผบก.ภ.ลำปาง พล.ต.อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลางยาเสพติด (ยาไอซ์) 600 กิโลกรัม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก และส่วนที่เกี่ยวข้องจับกุมตรวจยึดได้พร้อมขยายผลตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา

การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดล็อตนี้มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าขบวนการลักลอบขนยาเสพติดกลุ่มจังหวัดสุพรรณบุรีจะใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบนผ่านจุดตรวจยาเสพติดแม่พริกไปส่งยังพื้นที่ภาคกลาง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชา และร่วมกันวางแผนเพื่อตรวจสอบรถยนต์ตามที่ได้รับแจ้งผ่านระบบกล้องวงจรปิดอ่านป้ายทะเบียนรถแบบอัตโนมัติ (ระบบกล้องไลเซนเพลส) เพื่อค้นหารถยนต์เป้าหมาย กระทั่งพบข้อมูลว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย 3 คัน ติดป้ายทะเบียน 4 กต 9079 กทม., ญภ 4366 กทม. และ ผก 9134 สุพรรณบุรี จึงได้ทำการตรวจเช็กข้อมูลผู้ครอบครองรถเป็นคนพื้นที่สุพรรณบุรี ตรงตามแหล่งข่าวแจ้งว่าเป็นรถและกลุ่มเป้าหมาย กำลังวิ่งมุ่งหน้าลงมายังจุดตรวจแม่พริก

ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าจุดตรวจยาเสพติดแม่พริกนั้น พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน 4 กต 9079 กทม. ภายในรถมีคนขับและคนโดยสารจำนวน 3 คน ซึ่งตรงกับเป้าหมายและการวิเคราะห์ หยุดจอดห่างจากจุดตรวจห่างประมาณ 100 เมตร ก่อนคนในรถจะชะโงกกลับมามองเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ชุดจับกุมจึงทำทีว่าเลิกปฏิบัติงาน แล้วรถยนต์เก๋งคันกล่าวได้วิ่งออกไปจากที่จอด

หลังจากนั้นได้มีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม.วิ่งมาถึงจุดตรวจ สังเกตภายในรถยนต์มีคนขับและผู้โดยสารรวม 2 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เรียกให้หยุดจอด แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนีไปทางถนนพหลโยธินขาล่อง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขับรถยนต์ไล่ติดตามไปจนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 589 พบรถยนต์คันดังกล่าวเสียหลักจอดติดเครื่องอยู่ร่องกลางถนนโดยเปิดประตูด้านผู้โดยสารทิ้งไว้ ตรวจสอบภายในรถพบถุงกระสอบสายรุ้ง 10 ถุง ภายในบรรจุยาไอซ์ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวอัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แบ่งกำลังออกติดตาม อีกทั้งประสานงานพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ ต่อมาได้รับแจ้งจากชุดจับกุมด่านตรวจพยุหะคีรีฯ ได้สกัดจับรถยนต์เก๋งพร้อมบุคคลในรถ จำนวน 5 คน ได้ซักถามบุคคลทั้ง 5 คน ให้การยอมรับว่าได้หลบหนีการจับกุมจากจุดตรวจยาเสพติดพื้นที่ สภ.แม่พริก ซึ่งมีบุคคลหนึ่งในนั้นคือ น.ส.ปิยะวรรณ ก่วยสกุล ให้การว่าร่วมกันกับนายธนากร มะขันทอง ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ไปรับผู้ต้องหาบางส่วนเพื่อหลบหนีกลับสุพรรณบุรี จึงได้ร่วมกันจับกุมและควบคุมตัวมายัง สภ.แม่พริกเพื่อดำเนินคดี

ห้วงเดียวกันยังพบรถยนต์กระบะแค็บ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี วิ่งมาถึงจุดตรวจด้วยความเร็ว สังเกตภายในรถยนต์มีคนขับและผู้โดยสา จำนวน 2 คน แต่เมื่อคนในรถเห็นรถเจ้าหน้าที่เปิดไฟสัญญาณจึงได้กลับรถและทิ้งวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกระสอบถุงสายรุ้ง จำนวน 2 ใบลงจากรถที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น ห่างจากจุดตรวจประมาณ 1 กม.

เมื่อเจ้าหน้าที่ตามไปตรวจสอบพบยาไอซ์ มีลักษณะเหมือนกับของกลางยาเสพติดที่บรรทุกมากับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้ออีซูซุ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. จึงได้ตรวจยึดเป็นของกลาง พร้อมจัดกำลังไล่ติดตามประสานงานพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านนา สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ว่าจับกุมผู้ต้องหาที่ทิ้งของกลาง-หลบหนีจากจุดตรวจยาเสพติดดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดี

จากการซักถามผู้ต้องหาทั้ง 7 คนให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบขนยาเสพติดของกลางจาก จ.เชียงรายเพื่อนำส่งปลายทางในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ของกลาง 3 คันเป็นยานพาหนะขนมาตามเส้นทางถนนพหลโยธินจาก อ.พาน จ.เชียงราย ผ่าน จ.พะเยา, อ.งาว อ.เมืองลำปาง อ.เกาะคา อ.สบปราบ อ.เถิน และถูกจับกุมที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก จ.ลำปาง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 7 คน จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานน่าเชื่อได้ว่ามีความผิดฐาน "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหาทั้ง 7 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนเพื่อทำการขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น